คำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ในคดีหมายเลขแดงที่ ลต สสข 24/2566

◯ (๓๑)
คำสั่ง
สำหรับศาลใช้
 
ตราครุฑ
ตราครุฑ
คดีหมายเลขดำที่ ลต สสข ๙/๒๕๖๖
คดีหมายเลขแดงที่ ลต สสข ๒๔/๒๕๖๖
ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์
ศาลฎีกา
วันที่ ๒ เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
ความคดีเลือกตั้ง
นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้ร้อง
ระหว่าง
ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ ๒ จังหวัดนครนายก ผู้คัดค้าน
เรื่อง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(สิทธิสมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง)

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ ๒ จังหวัดนครนายก สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่ผู้คัดค้านไม่ประกาศชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งโดยอ้างว่าผู้ร้องขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ผู้ร้องมิได้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ขอให้มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านเพิ่มชื่อผู้ร้องในรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ ๒ จังหวัดนครนายก ของพรรคประชาธิปัตย์

ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ก่อนประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ผู้คัดค้านตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว ปรากฎว่าผู้ร้องเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๙๘ (๓) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๒ (๓) เนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชนใด ๆ โดยอ้อม เพราะมีบริษัทย่อยทางอ้อมเป็นบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) ลักษณะธุรกิจเป็นผู้ให้บริการด้านการนำเสนอสื่อโฆษณาแบบออนไลน์และบริการรับบริหารและจัดทำระบบคอลเซนเตอร์กับบริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด ลักษณะธุรกิจเป็นผู้ให้บริการธุรกิจสื่อโฆษณาออนไลน์ ขอให้ยกคำร้อง

ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่ได้โต้แย้งกันรับฟังเป็นยุติว่า เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๖ มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๖ เพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๖ คณะกรรมการการเลือกตั้งมีประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง กำหนดวันเลือกตั้ง วันรับสมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง วันรับสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อและสถานที่ที่พรรคการเมืองจะส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ โดยกำหนดให้วันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เป็นวันเลือกตั้ง และวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๖ เป็นวันรับสมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ ๒ จังหวัดนครนายก สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ตามสำเนาใบสมัครและสำเนาใบรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ ๒ จังหวัดนครนายก เอกสารหมาย ค.๕ และ ร.๑ ตามลำดับ ต่อมาวันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๖ ผู้คัดค้านไม่ประกาศรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เนื่องจากปรากฎหลักฐานว่า ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) อันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิรับสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๔๒ (๓) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามสำเนาหนังสือแจ้งการไม่ประกาศรายชื่อบุคคลเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เอกสารหมาย ร.๓ และ ค.๖ ผู้ร้องถือหุ้นบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จำนวน ๒๐๐ หุ้น จากการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๘ ตามสำเนารายงานการถือหลักทรัพย์เอกสารหมาย ร.๕ และสำเนาหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบข้อมูลการถือหลักทรัพย์ของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเอกสารหมาย ค.๘ คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้ร้องมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ เห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๙๘ บัญญัติว่า "บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร... (๓) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ..." และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๒ (๓) บัญญัติเช่นเดียวกัน ดังนั้น ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจึงต้องไม่เป็นเจ้าของหรือืผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ เมื่อผู้คัดค้านไม่ประกาศรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งโดยอ้างเหตุว่า ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จำนวน ๒๐๐ หุ้น และบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) มีบริษัทย่อยทางอ้อมคือบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) และบริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชน กรณีจึงเห็นควรวินิจฉัยก่อนว่า บริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) บริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด และบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) อยู่ในความหมายของคำว่า สื่อมวลชนใด ๆ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๙๘ (๓) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๒ (๓) หรือไม่

ข้อเท็จจริงปรากฎตามคำร้อง คำคัดค้าน เอกสารประกอบคำร้องและคำคัดค้าน รวมทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสารในชั้นไต่สวนว่า บริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทมหาชนจำกัด เมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๘ ทุนจดทะเบียนมาจากหุ้นสามัญ ๑๕,๖๕๔,๔๐๐ หุ้น หุ้นละ ๑๐ บาท เป็นเงิน ๑๕๖,๕๔๔,๐๐๐ บาท ทุนชำระครบถ้วนแล้ว มีวัตถุประสงค์ของบริษัท ดังเช่น ประกอบกิจการรับทำสิ่งพิมพ์ กิจการบริการทางด้านการโฆษณา การออกแบบ การพิมพ์ และเผยแพร่งานศิลปกรรมและวัสดุเพื่อการโฆษณา และกิจการให้บริการ ให้และส่งข้อมูลข่าวสารทุกประเภท รวมถึงการให้บริการเป็นศูนย์บริการข้อมูลหรือคอลเซนเตอร์ ตามสำเนาหนังสือรับรอง เอกสารหมายเลข ๒ ในชุดเอกสารหมาย ศ.๓ และตามหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๖ ในชุดเอกสารมหาย ศ.๓ แผ่นที่ ๑ ระบุว่า บริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจหลัก ๓ ลักษณะ ได้แก่ (๑) บริการ Outsourced Contact Center รับจัดทำและบริหารระบบคอลเซนเตอร์ครบวงจร โดยมีบริการครอบคลุมบริการรับสายเพื่อรับเรื่องร้องเรียน รับคำสั่งซื้อสินค้า บริการโทรออกเพื่อนำเสนอสินค้า สอบถามความพึงพอใจ ติดตามหนี้สิน และบริการที่ไม่ใช้เสียง เพื่อให้ข้อมูลทางแชตออนไลน์ (๒) บริการโฆษณาออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม YellowPages ซึ่งเป็นสื่อโฆษณาดิจิทัลที่รวมข้อมูลผู้ประกอบการธุรกิจทั่วประเทศไทยไว้ในเว็บไซต์เดียว ในลักษณะของสารบบข้อมูลธุรกิจ เช่น ข้อมูลชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ รวมถึงรายละเอียดสินค้าของผู้ประกอบการเพื่อให้บุคคลทั่วไปเข้าทำการสืบค้นข้อมูลผู้ประกอบธุรกิจแต่ไม่มีการให้บริการในลักษณะสื่อข้อมูลข่าวสารทั่วไป และ (๓) บริการความบันเทิงด้วยเสียง (Infotainment) ผ่านหมายเลขบริการ โดยนำเสนอเนื้อหาบริการด้านกีฬา ดูดวง เรื่องย่อภาพยนตร์ และเรื่องย่อละคร เป็นต้น ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทมาจากการให้บริการดังกล่าวข้างต้น ตามสำเนางบการเงินและรายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ เอกสารหมายเลข ๔ ในชุดเอกสารหมาย ศ.๓ ส่วนบริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ ทุนจดทะเบียน ๑๐๐,๐๐๐ บาท มีวัตถุประสงค์ของบริษัท ดังเช่น ประกอบกิจการบริการจัดเก็บ รวบรวม จัดทำ จัดพิมพ์และเผยแพร่สถิติ ข้อมูลในทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การเงิน การตลาด กิจการเกี่ยวกับการโฆษณาและเผยแพร่ธุรกิจ กิจกรรมของบุคคล คณะบุคคล นิติบุคคล และหน่วยงานของรัฐโดยใช้สื่อโฆษณาทุกประเภท และประกอบกิจการจำหน่าย จัดหา เป็นตัวแทนจำหน่าย ตัวแทนจัดหางานโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางธุรกิจโดยสื่อโฆษณาทุกประเภท ตามสำเนาหนังสือรับรองเอกสารหมายเลข ๒ ในชุดเอกสารหมาย ศ.๒ และตามหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของบริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๖ ในชุดเอกสารหมาย ศ.๒ แผ่นที่ ๑ ระบุว่า บริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด ประกอบกิจการเกี่ยวกับการโฆษณาและเผยแพร่ธุรกิจ ทั้งนี้ เพื่อการถือครองโดเมนเนม (Domain Name) ของเว็บไซต์ www.yellowpages.co.th ซึ่งบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทใช้ในการให้บริการสื่อโฆษณาดิจิทัลที่รวมข้อมูลผู้ประกอบการธุรกิจทั่วประเทศไทยไว้ในเว็บไซต์เดียวในลักษณะของสารบบข้อมูลธุรกิจ รวมถึงรายละเอียดสินค้าของผู้ประกอบการเพื่อให้บุคคลทั่วไปเข้าทำการสืบค้นข้อมูลผู้ประกอบธุรกิจได้ โดยไม่ได้มีการให้บริการในลักษณะสื่อข้อมูลข่าวสารทั่วไป ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด มาจากการให้บริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) ใช้โดเมนเนมของเว็บไซต์ดังกล่าวเท่านั้น ไม่มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการอื่น ตามสำเนางบการเงินและรายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ เอกสารหมายเลข ๔ ในชุดเอกสารหมาย ศ.๒ เมื่อพิจารณาข้อมูลลักษณะการประกอบธุรกิจของบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) และ บริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด ทั้งที่ปรากฎในหนังสือรับรองบริษัทและหนังสือชี้แจงของทั้งสองบริษัทดังกล่าว ประกอบกับความเห็นของผู้ช่วยศาสตราจารย์กัญภัส อู่ตะเภา คณบดีวิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ที่เบิกความว่า ตามหลักวิชาการ คำว่า "สื่อมวลชน" หมายถึง สื่อกลางที่นำข่าวสาร สาร และเนื้อหาสาระทุกประเภทไปสู่มวลชนหรือกลุ่มคนจำนวนมากไม่ว่ารูปแบบใด สื่อดั้งเดิมมีเช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ ปัจจุบันรวมถึงสื่อใหม่หรือสื่อออนไลน์ด้วย เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูบ หรือแอปพลิเคชันต่างๆ หากบุคคล นิติบุคคล หรือองค์กรใดเป็นสื่อกลางในการนำข่าวสารหรือเนื้อหาไปยังผู้คนจำนวนมากได้ หรือถือครองสื่อที่เป็นช่องทางการสื่อสารหรือผลิตเนื้อหาไปยังผู้คนจำนวนมาก และผู้คนจำนวนมากสามารถรับสารนั้นได้ ถือเป็นสื่อมวลชน ดังนั้น บริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด ที่มีรูปแบบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการช่องทางออนไลน์สำหรับให้ธุรกิจต่าง ๆ มาลงโฆษณาผ่านเว็บไซต์ www.yellowpages.co.th โดยบริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด เป็นผู้ถือครองโดเมนเนมของเว็บไซต์ดังกล่าว ถือได้ว่า บริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด เป็นเจ้าของหรือผู้ถือครองเว็บไซต์อันเป็นสื่อกลางในการนำข่าวสารไปยังผู้คนจำนวนมากตามความมุ่งหมายของการเป็นสื่อมวลชน ตามหลักวิชาการ บริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด จึงอยู่ในความหมายของคำว่า สื่อมวลชนใด ๆ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๙๘ (๓) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๒ (๓) ส่วนการที่บริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) รับจัดทำและบริหารระบบคอลเซนเตอร์ครบวงจร โดยมีบริการครอบคลุมการรับสายเพื่อร้องเรียน รับคำสั่งซื้อสินค้า การโทรออกเพื่อนำเสนอสินค้า รวมทั้งบริการที่ไม่ใช้เสียงเพื่อให้ข้อมูลทางแชต ออนไลน์ และมีบริการความบันเทิงด้วยเสียง (Infotainment) ผ่านหมายเลขบริการ อันมีลักษณะเป็นสื่อกลางในการให้ข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางโทรศัพท์และสื่อออนไลน์ต่างๆ ของบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) เอง นอกจากนี้บริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) ยังมีกิจการบริการโฆษณาออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม YellowPages ของบริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด อันเป็นสื่อโฆษณาดิจิทัลที่รวมข้อมูลผู้ประกอบการธุรกิจทั่วประเทศไทย โดยบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตเนื้อหาโฆษณาที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มดังกล่าวอีกด้วย ลักษณะการประกอบกิจการดังกล่าว เห็นได้ชัดว่า บริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) เป็นทั้งผู้ผลิตเนื้อหาสื่อและเป็นผู้ครอบครองช่องทางการสื่อสารไปยังผู้คนจำนวนมาก บริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) จึงอยู่ในความหมายของคำว่า สื่อมวลชนใด ๆ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๙๘ (๓) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๒ (๓) เช่นกัน

ในส่วนของบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) นั้น ข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำคัดค้าน เอกสารประกอบคำร้องและคำคัดค้าน รวมทั้งพยานเอกสารและพยานบุคคลในชั้นไต่สวนคือ นายนรินทร์ จุ่มศรี ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) บริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) และบริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด ให้มาเบิกความต่อศาล ปรากฏว่า บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทมหาชนจำกัด เมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๓๕ ทุนจดทะเบียน ณ สิ้นปี ๒๕๖๕ เป็นเงิน ๔,๙๙๗,๔๕๙,๘๐๐ บาท ทุนชำระแล้วเป็นเงิน ๒,๙๗๓,๙๒๕,๗๙๑ บาท มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการต่างๆ รวม ๔๙ ข้อ ปัจจุบันบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการให้บริการที่ปรึกษาและบริหารงานให้แก่บริษัทย่อย รวมถึงเป็นผู้ถือหุ้นของกลุ่มบริษัทย่อย ๑๔ บริษัท บริษัทย่อยทางอ้อม ๔ บริษัท บริษัทร่วม ๕ บริษัท และบริษัทร่วมค้า ๕ บริษัท รวม ๒๘ บริษัท อันเป็นรูปแบบของบริษัทขนาดใหญ่สมัยใหม่ เพื่อความสะดวกในการบริการจัดการ การขยายกิจการ และประโยชน์ในทางภาษีอากร บริษัทย่อย บริษัทย่อยทางอ้อม บริษัทร่วม และบริษัทร่วมค้ากับบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ดังกล่าว ประกอบธุรกิจในกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ธุรกิจบริการสำหรับลูกค้าองค์กร และธุรกิจในกลุ่มดิจิทัลเซอร์วิส ตามสำเนางบการเงินและรายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ เอกสารหมายเลข ๔ ในชุดเอกสารหมาย ศ.๔ สำหรับความเกี่ยวพันระหว่างบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กับบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) และบริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด นั้น บริษัททั้งสองบริษัทเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) แม้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ร้อยละ ๙๙.๙๙ บริษัทแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) ร้อยละ ๙๙.๖๘ บริษัทซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทเอดี เวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) ร้อยละ ๙๙.๙๙ เช่นเดียวกัน และบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด ร้อยละ ๙๙.๙๙ ตามสำเนารายงานประจำปี ๒๕๖๕ ของบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เอกสารหมายเลข ๓ แผ่นที่ ๒๓ ในชุดเอกสารหมาย ศ.๔ โดยบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) มิได้เข้าถือหุ้นในบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) และบริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด โดยตรงก็ตาม แต่ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ กจ.๑๗/๒๕๕๑ เรื่อง การกำหนดบทนิยามในประกาศเกี่ยวกับการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ (ฉบับประมวล) ลงวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ ข้อ ๒ (๑๑) ให้นิยามของคำว่า "บริษัทย่อย" ว่า หมายความว่า (ก)บริษัทที่ผู้ออกหลักทรัพย์มีอำนาจควบคุมกิจการ (ข) บริษัทที่บริษัทตาม (ก) มีอำนาจควบคุมกิจการ (ค) บริษัทที่อยู่ภายใต้อำนาจควบคุมกิจการของบริษัทตาม (ข) ต่อไปเป็นทอด ๆ ซึ่งอำนาจการควบคุมกิจการนั้น ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ กจ.๑๗/๒๕๕๑ ดังกล่าว ข้อ ๑๓/๑ มีข้อความระบุว่า มีความสัมพันธ์ในลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังนี้ (ก) การถือหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงในบริษัทเกินกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทนั้น (ข) การมีอำนาจควบคุมคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม หรือไม่ว่าเพราะเหตุอื่นใด (ค) การมีอำนาจควบคุมการแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการตั้งแต่กึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมดไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม แสดงว่า บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) มีอำนาจควบคุมการดำเนินงานของบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) และบริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด โดยดำเนินการผ่านบริษัทแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ที่บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ ๙๙.๙๙ และบริษัทที่บริษัทแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เกินกว่าร้อยละ ๙๙ ต่อไปเป็นทอด ๆ ประกอบกับทางไต่สวนได้ความว่า บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจหลักคือการเข้าไปลงในบริษัทย่อยและให้คำปรึกษาด้านนโยบาย พร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานบางส่วนแก่บริษัทที่เข้าไปลงทุน ดังเช่น การให้บริการทางด้านกฎหหมาย แสดงให้เห็นว่า บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) มีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) และบริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด ในความเป็นจริงด้วย ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า บริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) และบริษัทเยลโล เพจเจส คอมเมอร์ส จำกัด ประกอบกิจการสื่อมวลชน ย่อมถือได้ว่า บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) อยู่ในความหมายคำว่า สื่อมวลชนใด ๆ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๙๘ (๓) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๒ (๓) ด้วย

ปัญหาต้องวินิจฉัยต่อไปว่า การที่ผู้ร้องถือหุ้นบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จำนวน ๒๐๐ หุ้น ทำให้ผู้ร้องมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๙๘ (๓) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๒ (๓) หรือไม่ เห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๙๘ บัญญัติว่า "บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร... (๓) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ..." และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๒ (๓) บัญญัติเช่นเดียวกัน บทบัญญัติเรื่องลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๙๘ (๓) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๒ (๓) ดังกล่าว มีเจตนารมณ์เพื่อป้องกันมิให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอาศัยความได้เปรียบจากการเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชนเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษแก่บุคคลเพื่อประโยชน์ในทางการเมือง ซึ่งในขณะที่มีการเลือกตั้งย่อมหมายถึงการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่ตนและพรรคการเมืองที่ตนสังกัดหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครและพรรคการเมืองอื่น การกำจัดสิทธิผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพราะเหตุเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ จึงต้องคำนึงถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญดังกล่าวด้วย อีกทั้งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๙๘ (๓) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๒ (๓) เป็นบทบัญญัติจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่า การเข้าถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชนของประชาชนทั่วไปเป็นสิทธิในทรัพย์สินที่ได้รับความคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญเช่นกัน และในขณะที่ผู้สมัครยื่นใบสมัครเลือกตั้งนั้น ผู้สมัครยังไม่ได้มีสถานะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อีกทั้งยังไม่แน่ว่าผู้สมัครจะได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ คดีนี้ ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ร้องมีหุ้นในบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จำนวนเพียง ๒๐๐ หุ้น จากจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด ๒,๙๗๓,๙๒๕,๗๙๑ หุ้น และมูลค่าหุ้นทั้งหมดของบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ตามราคาตลาด ณ สิ้นปี ๒๕๖๕ เป็นเงิน ๕๗๙,๙๗๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ในขณะที่หุ้นของผู้ร้องมีมูลค่าตามราคาตลาดในวันเดียวกันเป็นเงินเพียง ๓๙,๐๐๐ บาท การที่ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จำนวนเพียง ๒๐๐ หุ้นดังกล่าว ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ผู้ร้องย่อมไม่มีอำนาจสั่งการให้บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ร้องและพรรคการเมืองของผู้ร้องหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครและพรรคการเมืองอื่น เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งของผู้ร้องหรือพรรคการเมืองของผู้ร้องได้ เนื่องจากผู้ร้องมิใช่เจ้าของหรือมีจำนวนหุ้นในจำนวนมากพอที่จะสามารถกระทำเช่นนั้นได้ การตีความบทบัญญัติของกฎหมายตามลายลักษณ์อักษรให้ผู้ร้องมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเพราะเหตุเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เพียง ๒๐๐ หุ้น ย่อมไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ การที่ผู้คัดค้านไม่ประกาศรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิสมัครับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ ๒ จังหวัดนครนายก จึงเป็นการไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๙๘ (๓) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๒ (๓)

จึงมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านเพิ่มชื่อนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้ร้อง และประกาศรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ ๒ จังหวัดนครนายก ของพรรคประชาธิปัตย์.


นายอธิคม อินทุภูติ


นายอดิศักดิ์ ตันติวงศ์


นายวีรภัทร ไพบูลย์วัฒนกิจ


นามกัมปนาท วงษ์นรา

บรรณานุกรม แก้ไข

  • ศาลฎีกา. (2566, 2 พฤษภาคม). คำพิพากษาคดีเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประจำปี 2566 (คำสั่งศาลฎีกา ในคดีหมายเลขแดงที่ ลต สสข ๒๔/๒๕๖๖). เข้าถึงเมื่อ 15 มิถุนายน 2566 จาก ลิงก์
 

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตามมาตรา 7 (4) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1) ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2) รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3) ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4) คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5) คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"