งานแปล:ว่าด้วยเสน่ห์ยาแฝดซึ่งชาวสยามรู้จักในนามน้ำมันพราย

ว่าด้วยเสน่ห์ยาแฝดซึ่งชาวสยามรู้จักในนามน้ำมันพราย (พ.ศ. 2481)
โดย พระยาอินทรมนตรีศรีจันทรกุมาร (ฟรานซิส เฮนรี ไจลส์), แปลจากภาษาอังกฤษ โดย วิกิซอร์ซ
ว่าด้วยเสน่ห์ยาแฝด
ซึ่งชาวสยามรู้จักในนามน้ำมันพราย
โดย ฟรานซิส เอช. ไจลส์

ใน ตำนานเกาะหลัก ซึ่งข้าพเจ้าเผยแพร่ในวารสารนี้ มีระบุว่า เจ้ากรุงจีนทรงได้รับมอบเสน่ห์ยาแฝดที่เปี่ยมอานุภาพมาจากพระอัยกาผู้อาศัยอยู่ในเทวภูมิ โดยประกอบขึ้นจากไข แป้ง และน้ำมันจันทน์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เสน่ห์ยาแฝดนี้คือน้ำมันพรายอันเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวสยาม เจ้าหมวกทราบส่วนประกอบสำหรับทำเสน่ห์ยาแฝดนี้จากการเปิดเผยของผีบรรพชน และเจ้าหมวกก็ใช้ยาแฝดเพื่อได้รับความรักจากนางยมโดย ธิดาผู้เลอโฉมของเจ้าม่องลาย การใช้เสน่ห์ยาแฝดนี้นำไปสู่เหตุการณ์สำคัญใหญ่หลวงในทางประวัติศาสตร์ ซึ่งบันทึกไว้แล้วในงานเขียนของข้าพเจ้าที่ชื่อ ตำนานเกาะหลัก ความรักนั้นเป็นอิทธิพลลึกลับที่คอยรุกเร้าหมู่มนุษย์ และเพราะความรักอาจได้รับโดยใช้เสน่ห์ยาแฝด ผู้อ่านวารสารนี้จึงอาจสนใจใคร่รู้ว่า เสน่ห์ยาแฝดนี้ทำกันอย่างไร รายละเอียดนั้นชวนขนพองสยองเกล้าสักหน่อย หนึ่งในกิจสำคัญประการต้น ๆ คือ ต้องได้ศพใหม่ ๆ มา และถ้าเป็นศพหญิงตายในยามตั้งครรภ์ เสน่ห์ยาแฝดจะยิ่งขลัง ศพบุคคล จะชายก็ดี หญิงก็ดี ซึ่งตายผิดธรรมชาตินั้น ย่อมใช้การได้ แต่ยาเสน่ห์จะชะงัดน้อยลง หมอผีที่ใคร่จะได้น้ำมันพราย ย่อมไปยังป่าช้าในยามค่ำคืนดึกดื่น พร้อมผู้ช่วย 2 คนติดตามไป สิ่งที่หมอผีพกไปด้วย คือ มีด 1 เล่ม ไม้เท้า 1 อัน มีรูปหรืออักขระของขลังจารึกอยู่ สายสิญจน์ 1 สาย ปลุกเสกด้วยการบริกรรมเวทมนต์แล้ว ผ้า 8 ผืน มีรูปของขลังเขียนอยู่ สำหรับวางไว้ ณ จุดสำคัญ 8 จุดตามเข็มทิศเพื่อเป็นเครื่องคุ้มกัน เทียนอันเรียกว่า เทียนชัย 1 เล่ม มีไส้ทำจากสายสิญจน์ 9 เส้นบิดเป็นเกลียว ขี้ผึ้งหนัก 1 บาท 1 ชิ้น กับทั้งน้ำมนต์จำนวนหนึ่ง และข้าวสารซึ่งปลุกเสกด้วยการบริกรรมเวทมนต์แล้ว อุปกรณ์ขุดศพก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พึงนำไปด้วย

ก่อนเริ่มงานขุดศพ จำต้องตรึงสายสิญจน์ลงอาคมไว้รอบพื้นที่หลุมศพ พร้อมวางผ้าทั้ง 8 ผืนซึ่งจารึกรูปของขลังนั้นไว้ ณ จุดสำคัญแต่ละจุดตามเข็มทิศทั้ง 8 จุด หมอผีจะนั่งภายในวงข่ายเวทมนต์นี้ และเมื่อเข้าฌานแล้ว หมอผีจะเรียกผีผู้ตายให้มาหา เมื่อถูกปลุกขึ้นมาเช่นนั้น ผีจะออกจากหลุมมายืนต่อหน้าหมอผี ในหลายกรณียังมีความสูงเท่าต้นตาลด้วย หมอผีจะเปล่งเสียงบริกรรมคาถาบางอย่าง พลางซัดข้าวสารเสกไปที่ร่างผีเพื่อสะกดผี จนผีอาจมีขนาดเล็กลง รูปร่างใหญ่โตของผีจะค่อย ๆ เสื่อมลง หดเข้า และที่สุดก็จะนั่งต่อหน้าหมอผีพร้อมค้อมศีรษะ ผีซึ่งบัดนี้มีขนาดปรกติแล้วจะยกแขนขึ้นโอบหมอผี ในยามที่ผีนั่งอยู่ในท่านี้โดยโอบหมอผีไว้ หมอผีจะจุดเทียนชัยลนไปที่หน้าผากศพเพื่อให้ได้มาซึ่งของเหลวจากมันสมอง อย่างไรก็ดี ถ้าไม่ได้ในปริมาณเพียงพอ หมอผีจะลนเทียนไปที่คางจนกว่าภาชนะจะเต็ม

ครั้นได้น้ำมันสกัดจากศพมาในปริมาณเพียงพอแล้ว หมอผีจะลนเทียนชัยไปที่ศอกของศพ ผีจะค่อย ๆ คลายอ้อมกอดแล้วอันตรธานไปเอง

อีกวิธีหนึ่งที่นำมาใช้เพื่อให้ได้มาซึ่งของเหลวจากศพนั้น คือ นำดินหลุมศพที่ปกคลุมด้านบนศพออก เพื่อจะได้แก้ผ้าห่อศพให้ศพลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่งได้ แล้วฝังหลักลงไปในดินเพื่อใช้มัดศพขณะอยู่ในท่านี้ จากนั้น หมอผีจะระบายของเหลวจากหน้าผากหรือคางศพออกมาโดยการลนด้วยเทียนที่จุดแล้ว ถ้าศพมีไขเคลือบใบหน้าอยู่ ต้องนำสิ่งเคลือบนี้ออกด้วย การเคลือบใบหน้าศพด้วยไขนี้กระทำกันเป็นปรกติอย่างยิ่ง ถ้าผีดุร้ายนัก ก็มักเพียรขัดขวางมิให้หมอผีพบศีรษะศพ ไม่ว่าหมอผีขุดที่ใดก็จะพบเจอแต่ตีนศพ ในกรณีเช่นนี้ ก็จำต้องขุดศพออกมาทั้งร่าง แต่แม้กระนั้น ผีจะต่อสู้ขัดขวางมิให้หมอผีได้สมใจ บางคราก็ปรากฏว่า เมื่อผีต่อต้าน และจำเป็นต้องขุดศพขึ้นมาทั้งร่าง ผีจะลากหัวผู้ขุดหลุมลงไปในหลุมแล้วยึดกุมเขาไว้ เมื่อผีประพฤติในลักษณะนี้ หมอผีจะนำไม้เท้ามาตีศพ จนกว่าผีจะยอมปล่อยผู้ขุดให้หลุดจากเงื้อมมือและผู้ขุดจะหลุดพ้นจากหลุมมาได้ ในบางโอกาส ผีก็ตั้งหน้าตั้งตาขัดขวางมิให้หมอผีดำเนินการ จนเมื่อเปิดหลุมศพได้แล้ว จะไม่พบศพใด ๆ ดังศพหายลับไป ฉะนี้แล้ว หมอผีจำต้องบีบให้ผีหวนคืนมาโดยอาศัยการบริกรรมมนต์ดำ และขณะเดียวกัน ก็โปรยน้ำศักดิ์สิทธิ์และข้าวสารเสกไปตามพื้นที่ที่กำหนดเขตไว้ด้วยสายสิญจน์และเครื่องราง

ของเหลวที่ได้จากศพนั้น ไม่ต้องต้มหรือทำประการใดอีก ภาชนะที่รองรับของเหลว ย่อมปิดปากและผนึกไว้ด้วยผ้าชิ้นหนึ่งซึ่งมีสัญลักษณ์ของขลังจารึกอยู่ แล้วใส่ภาชนะนี้ไว้ในหม้อดินใบใหม่ ซึ่งจะผนึกซ้ำในลักษณะเดียวกัน

หม้อที่ไว้น้ำมันพรายจะเก็บไว้ในบ้าน โดยวางไว้บนหิ้งสูงเหนือศีรษะบรรดาผู้อยู่อาศัยในบ้าน อาหาร ซึ่งได้แก่ ข้าวและปลาหรือเนื้อสักเล็กน้อย ต้องจัดมาเซ่นผีวันละ 2 ครั้ง ถ้าหมอผีละเลยไม่จัดอาหารเป็นเครื่องเซ่นเช่นนี้ ก็เหมือนหมอผีหาเรื่องใส่ตัว เพราะผีซึ่งเกิดหิวโหยจะเข้าสู่ร่างกายหมอผีและตั้งต้นบริโภคเครื่องในของหมอ ความหิวของผีนั้นต้องระงับอย่างเดียวกับความหิวของคน ก็ด้วยเหตุนี้ คนโบราณจึงว่า “หมอผีตายเพราะผี หมองูตายเพราะงู”

ของเหลวจากผีนี้มีอานุภาพใหญ่หลวง และใช้ได้ในหลายวัตถุประสงค์ กล่าวคือ เพื่อก่อให้เกิดความรู้สึกรักขึ้นในหัวใจของผู้ถูกสัมผัสด้วยของเหลวนี้ หรือเพื่อกระทำให้ปวดท้อง ปวดศีรษะ หรือเจ็บไข้ได้ป่วยประการอื่นใด ของเหลวนี้ยังผสมกับอาหารหรือน้ำที่เลี้ยงให้บุคคลกิน หรือถูไปบนร่างกาย หรือดีดใส่ร่างกายด้วยนิ้ว แล้วแต่ว่าทำอย่างใดจะง่ายกว่า ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ในแต่ละกรณี ไม่ว่าจะใช้ยาเสน่ห์นี้เพื่อวัตถุประสงค์อันใด ก็ต้องบริกรรมคาถาเฉพาะเจาะจงด้วย ถ้าได้รับความรักจากผู้หญิงมาโดยใช้ยาแฝดเช่นนี้ เรื่องยุ่งยากจะตามมาเสมอ เพราะผู้หญิงจะป่วย แขนขาจะได้รับผลกระทบ และไม่นานก็จบชีวิตลง ถ้าเสน่ห์ยาแฝดนี้นำมาจากศพผู้ชาย และนำไปใช้แก่ผู้ใดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายใด ๆ ก็ตาม การไล่หรือขับผีออกจากบุคคลที่มันได้เข้าสิงสู่อยู่ภายในแล้วย่อมยากเย็น หมอผีผู้ได้ลองขับไล่ผีเช่นนั้นแล้ว บางทีจะพบว่า ผีดื้อด้านและดื้อดึงเหลือใจ ไม่ยอมผละไปจากเรือนร่างอันเปี่ยมเนื้อหนังมังสานี้เลย การที่หมอผีต้องหนีเอาชีวิตรอดเมื่อเผชิญผีลักษณะนี้ก็เกิดขึ้นดาษดื่นเหมือนกัน

ยังมีอีกวิธีสำหรับผลิตยาเสน่ห์ คือ ต้องนำไขที่เคลือบใบหน้าศพผู้ตายผิดธรรมชาติมา แล้วหากะโหลก 3 ใบของผู้ตายในลักษณะนี้เช่นกัน กะโหลกนั้นจะใช้เป็นเตาสามเส้า เอาหม้อต้มส่วนผสมวางไว้บนนั้น ส่วนผสมนี้ได้แก่ไขดังกล่าว และน้ำมันบางอย่าง เคล้ากับยาซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยส่วนประกอบ ใส่สิ่งที่ปรุงขึ้นนี้ลงในหม้ออันวางอยู่บนกะโหลกทั้ง 3 แล้วต้มโดยใช้ไม้ต่างกัน 3 ชนิดเป็นเชื้อเพลิง ท่อนฟืนนั้นต้องผ่านการปลุกเสกโดยมีสัญลักษณ์ของขลังเขียนไว้ทุกท่อน อาณาบริเวณที่ทำการต้มควรเป็นจุดที่ถนน 3 สายบรรจบกัน และสถานที่ที่ทำการต้มจริง ๆ ต้องกำหนดเขตด้วยสายสิญจน์และมีเครื่องรางของขลังวางไว้ ณ จุดสำคัญ 8 จุดตามเข็มทิศเพื่อกันมิให้ผีตนใดที่ประสงค์จะก้าวก่ายย่างกรายเข้ามา หมอผีซึ่งนั่งในท่าขัดสมาธิจะถือเทียนชัยไว้ในมือ ทำจิตใจให้พ้นจากสิ่งยึดติดและความลุ่มหลงทางโลกเพื่อให้สามารถติดต่อกับภพผีได้ หมอผีจะท่องบนคาถาบางอย่างเบื้องหน้าหม้อต้ม ถ้าหมอผีเก่งกาจในเวทมนต์หรือคุณไสย ภูตผีในหลายรูปร่างจะมาโฉบเฉี่ยวอยู่รอบกะโหลกทั้ง 3 ใบ เช่นนี้จะเป็นที่รับทราบกันว่า ยาเสน่ห์ครั้งนี้จะขลังนัก แต่จะไม่ทรงอานุภาพเท่ากับของเหลวได้ที่จากผีในลักษณะที่พรรณนาไว้ข้างต้น เมื่อต้มสิ่งที่ปรุงขึ้นนี้พอแล้ว จะเทสิ่งปรุงนี้ลงจาน แล้วปิดปากและผนึกด้วยผ้าหรือโลหะที่มีสัญลักษณ์ของขลังจารึกอยู่ ยานี้ต้องเก็บไว้ในที่สูงเบื้องบน และต้องมีการเลี้ยงผีทุกวัน ยานี้ใช้ในลักษณะเดียวกับน้ำมันหรือของเหลวของผี

บรรณานุกรม แก้ไข

  • Giles, F. H. (1938). "About a Love Philtre, Known to the Siamese as Nam Man Prai—Spirit Oil". Journal of the Siam Society, 30(1), 25–28.
    งานนี้เป็นงานแปล ซึ่งมีสถานะทางลิขสิทธิ์แยกต่างหากจากงานต้นฉบับ
งานต้นฉบับ:
 

งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า

ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
  2. ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
    1. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
    2. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
  2. แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก
 
งานแปล:
 

ข้าพเจ้า ผู้ถือลิขสิทธิ์ในงานนี้ ให้งานนี้เป็นสาธารณสมบัติ คำประกาศนี้ให้มีผลทั่วโลก
ถ้าคำประกาศดังกล่าวไม่อาจเป็นไปได้ในทางกฎหมาย ข้าพเจ้าก็ให้ทุกคนมีสิทธิใช้งานนี้ได้ในทุกกรณี โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เว้นแต่ที่กฎหมายกำหนด