ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2501
เล่ม ๗๕ ตอนที่ ๘๓
๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๑
ราชกิจจานุเบกษา
เพื่อยืนยันถึงความจงรักภักดีอันมีอยู่ต่อองค์ประมุขของชาติ ตามข้อความที่คณะปฏิวัติได้ประกาศไปแล้วหลายครั้งหลายหน คณะปฏิวัติจึงได้มีหนังสือกราบบังคมทูลพระกรุณาไป ดังสำเนาข้อความต่อไปนี้
ที่ ๘/๒๕๐๑กองบัญชาการคณะปฏิวัติ๒๐ ตุลาคม ๒๕๐๑ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อมข้าพระพุทธเจ้า จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ หัวหน้าคณะปฏิวัติในนามของปวงชนชาวไทย ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาศกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท
ด้วยคณะปฏิวัติได้ยึดอำนาจปกครองประเทศเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่กำลังเป็นภัยแก่ชาติ ดังปรากฏในสำเนาประกาศ ๙ ฉบับที่ทูลเกล้าฯ ถวายมาพร้อมกับหนังสือกราบบังคมทูลฉบับนี้ ความในประกาศเหล่านี้แสดงแจ้งชัดว่า ภัยเฉพาะหน้าของประเทศชาติที่จำเป็นต้องป้องกันแก้ไขโดยด่วนและด้วยวิธีการทุกอย่างที่สามารถทำได้ คือ ภัยคอมมิวนิสต์ ซึ่งถ้ามิได้แก้ไขป้องกันทันท่วงที ก็จะนำความล่มจมมาให้แก่ประเทศชาติ ราชบัลลังก์ และสถาบันทุกอย่างซึ่งเป็นที่รักที่ยึดถือของประชาชนชาวไทย
คณะปฏิวัติขอกราบบังคมทูลถวายปฏิญาณว่า ในการปฏิวัติครั้งนี้ ถึงหากจำเป็นจะต้องเปลี่ยนสถาบันแห่งชาติในทางหนึ่งทางใดบ้าง แต่สิ่งหนึ่งซึ่งคณะปฏิวัติจะไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนแปลง คือ ระบอบที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ คณะปฏิวัติจะยืนหยัดดำรงรักษาระบอบนี้ต่อไป คณะปฏิวัติได้ให้คำมั่นสัญญาในเรื่องนี้แก่ประชาชนในประกาศหลายแห่งหลายตอนที่ได้ประกาศไปแล้ว และขอถวายคำมั่นสัญญานี้เป็นส่วนพระองค์อีกครั้งหนึ่ง รัฐธรรมนูญที่จะจัดทำขึ้นใหม่ก็จะคงรักษาระบอบนี้ไว้อย่างมั่นคง
คณะปฏิวัติจะถวายความปลอดภัยแด่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระราชโอรส พระราชธิดา พระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดถึงคณะองคมนตรี อย่างเข้มงวดกวดขัน และจะป้องกันมิให้การละเมิดทุกสถานเกิดมีขึ้นในระยะปฏิวัตินี้
ควรมิควรสุดแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า-
โปรดกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า จอมพล ส. ธนะรัชต์
หัวหน้าคณะปฏิวัติ
ตามข้อความในหนังสือกราบบังคมทูลฯ ดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่า คณะปฏิวัติมีความเคารพสักการะแน่วแน่ในองค์ประมุขของชาติเพียงใด และยังขอยืนยันต่อประชาชนชาวไทยในที่นี้อีกครั้งหนึ่งว่า คณะปฏิวัติจะได้รักษาวาจาสัตย์ดังที่ได้ถวายไว้จนถึงที่สุด องค์พระมหากษัตริย์จะต้องได้รับการเทอดทูนไว้ตลอดไป คณะปฏิวัติจะไม่เปลี่ยนแปลงรากฐานระบอบการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของชาติ ทั้งจะถวายความปลอดภัยแด่พระองค์ท่าน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระราชโอรส พระราชธิดา พระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดทั้งองคมนตรี โดยจะมิให้มีการประทุษร้ายหรือการละเมิดอย่างหนึ่งอย่างใดเลยเป็นอันขาด
จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์
หัวหน้าคณะปฏิวัติ
งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า
- ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
- ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
- ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
- เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
- เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
- ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
- ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
- แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก