เรื่อง ไห้วรรนคดีสมาคมแห่งประเทสไทย
เปนผู้ตรวดคำที่จะนำมาไช้ไนภาสาไทย

เนื่องจากรัถบาลได้ตั้งกัมการส่งเสิมวัธนธัมภาสาไทยขึ้นคนะหนึ่ง ประกอบด้วย ผู้ซงวุทธิมีความรู้เชี่ยวชาญไนภาสาและวรรนคดีไทย และผู้มีความรู้ไนวิทยาการด้านอื่น อันเปนอุปกรน์แก่วัธนธัมภาสาไทย เพื่อไห้ร่วมกันพิจารนาปรับปรุงส่งเสิมภาสาไทยและหนังสือไทย ทั้งไนทางเรียงความ ร้อยแก้ว และกาพย์กลอนโคลงฉันท์ เพราะความจเรินไนทางภาสาเปนสิ่งสำคันส่วนหนึ่งซึ่งสแดงวัธนธัมของชาติ บัดนี้ คนะกัมการส่งเสิมวัธนธัมภาสาไทยได้ร่วมประชุมกันดำเนินการพิจารนาปรึกสาปรับปรุงตัวอักสรไทย ได้ว่างระเบียบและหลักเกนท์การไช้ตัวหนังสือไทย กับได้จัดทำพจนานุกรมตัวสกดแบบไหม่ และเสนอระเบียบการไช้คำแทนชื่อ และคำรับ คำปติเสธ มาโดยลำดับ จนถึงได้ประชุมปรึกสากันตั้งสำนักองค์การขึ้น เรียกว่า "วรรนคดีสมาคมแห่งประเทสไทย" โดยมีวัตถุประสงค์ดังปรากตไนข้อบังคับของวรรนคดีสมาคมแห่งประเทสไทย ซึ่งได้ทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๔๘๕ แล้วนั้น รัถบาลได้พิจารนาวัตถุประสงค์ของวรรนคดีสมาคมแห่งประเทสไทยโดยรอบคอบแล้ว เห็นว่า สมาคมนี้ก็ได้ตั้งสืบเนื่องไปจากคนะกัมการส่งเสิมวัธนธัมภาสาไทยซึ่งรัถบาลได้ตั้งไป และมีวัตถุประสงค์อันเปนประโยชนืแก่ประเทสชาติไนอันที่จะไห้วัธนธัมทางภาสาไทยจเรินก้าวหน้าและแผ่ไพสาลยิ่งขึ้น จึงเห็นควนมอบไห้วรรนคดีสมาคมแห่งประเทสไทยเปนสำนักองค์การมีหน้าที่ตรวดพิจารนาสอบสวนคำไหม่ที่จะมีผู้นำมาไช้ไนภาสาไทย ไนบันดาคำไหม่ที่จะนำมาไช้ เมื่อได้รับความเห็นชอบจากวรรนคดีสมาคมแห่งประเทสไทยแล้ว จึงเปนอันไช้ได้ อนึ่ง ผู้ที่สนไจไนการคิดคำไหม่อาดเสนอคำไหม่ที่คิดได้มาขอไห้สมาคมพิจารนาก็ได้ และเพื่อการนี้ ไห้วรรนคดีสมาคมแห่งประเทสไทยออกระเบียบและข้อบังคับไห้การเปนไปตามประกาสนี้ได้

  • ประกาส นะ วันที่ ๑๔ กรกดาคม ๒๔๘๕
  • จอมพล ป. พิบูลสงคราม
  • นายกรัถมนตรี

บรรณานุกรม

แก้ไข
 

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตามมาตรา 7 (3) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"