สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติสมุหมนตรี
รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๙

มีพระบรมราชโองการดำรัสเหนือเกล้า ฯ ว่า ข้าราชการผู้ที่ได้เคยทรงพระกรุณาใช้สอยเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยได้นั้น ข้างฝ่ายทหารก็ได้ทรงเลือกสรรให้เข้ารับราชการ ในตำแหน่งราชองครักษ์พิเศษบ้าง ประจำการบ้าง ซึ่งเป็นตำแหน่งรับราชการในที่ใกล้ชิดพระองค์ มีเครื่องหมายราชองครักษ์เป็นสำคัญ ดังแจ้งอยู่ในพระราชบัญญัติราชองครักษ์รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๗ นั้นแล้ว แต่ข้างฝ่ายพลเรือนยังหามีเครื่องหมายไม่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติไว้ดังนี้

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้ให้มีนามว่า พระราชบัญญัติสมุหมนตรีรัตนโกสินทร์ ศก ๑๒๙

มาตรา ๒ เมื่อจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ตั้งผู้ใดเป็นสมุหมนตรี จะได้มีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งเฉพาะอธิบดีกรมพระอาลักษณ์ หรือเฉพาะเสนาบดีเจ้ากระทรวง ซึ่งผู้นั้นรับราชการอยู่ในกระทรวงนั้น ๆ ถ้ามีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งเสนาบดีเจ้ากระทรวง ๆ ต้องมีหมายมายังกรมพระอาลักษณ์ เพื่อจะได้ส่งเครื่องหมายตำแหน่งไปยังผู้นั้น และลงแจ้งความตั้งสมุหมนตรีในหนังสือราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๓ เครื่องหมายตำแหน่งสมุหมนตรีนี้ เป็นเข็มอักษรพระบรมนามาภิไธยย่อ มีรัศมี และมีมงกุฎเหนืออักษร ให้เรียกว่าเข็มสมุหมนตรี สำหรับติดอกเสื้อเบื้องขวา

มาตรา ๔ ถ้าผู้ใดได้รับพระราชทานเข็มสมุหมนตรี และได้ลงแจ้งความตั้งในหนังสือราชกิจจานุเบกษาแล้ว จึงควรนับว่าผู้นั้นเป็นสมุหมนตรี

มาตรา ๕ ให้ผู้ที่เป็นสมุหมนตรี มีเกียรติยศเสมอราชองครักษ์พิเศษ

มาตรา ๖ ให้เป็นที่เข้าใจว่า ตามพระราชบัญญัติสมุหมนตรีนี้เป็นแต่มีพระราชประสงค์ จะพระราชทานเครื่องหมายแก่ผู้ที่ไว้วางพระราชหฤทัยเท่านั้น เพราะฉะนั้นการที่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ตั้งผู้ใด ๆ เป็นสมุหมนตรีนั้น ไม่เกี่ยวกับตำแหน่งหรือยศบรรดาศักดิ์อย่างใด ๆ จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ตั้งได้ทุกชั้นบุคคลตามพระราชอัธยาศัย

มาตรา ๗ ผู้ที่เป็นสมุหมนตรีนี้ จะได้ดำรงเกียรติยศอยู่ตลอดเวลาที่พอพระราชหฤทัย จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ออกจากสมุหมนตรีเมื่อใด ๆ ก็ได้ ด้วยลงแจ้งความในหนังสือราชกิจจานุเบกษาเป็นสำคัญ

มาตรา ๘ ให้อธิบดีกรมพระอาลักษณ์เป็นเจ้าหน้าที่รักษาเข็มสมุหมนตรีและรักษาพระราชบัญญัตินี้ให้เป็นไปตามสมควร