พระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอื่นฯ พ.ศ. 2550

ตราราชโองการ
ตราราชโองการ
พระราชกฤษฎีกา
เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานสภาและรองประธาน
สภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาร่างรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในคณะมนตรี
ความมั่นคงแห่งชาติ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ
กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการ และผู้ดำรงตำแหน่ง
ในคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ
พ.ศ. ๒๕๕๐

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๐
เป็นปีที่ ๖๒ ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอื่นของเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานสภาและรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาร่างรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการ และผู้ดำรงตำแหน่งในคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๖ และมาตรา ๓๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา  พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานสภาและรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาร่างรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการ และผู้ดำรงตำแหน่งในคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๐"

มาตรา  พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ เป็นต้นไป

มาตรา  ให้ประธานสภาและรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานสภาและรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มเป็นรายเดือน ตามบัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ นับแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง

ให้ประธานและรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ประธานและรองประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ และตุลาการรัฐธรรมนูญ ได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มเป็นรายเดือน ตามบัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ นับแต่วันที่ดำรงตำแหน่ง

ประธานสภาและรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานสภาและรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ ประธานและรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ประธานและรองประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ เมื่อได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งดังกล่าวแล้ว ไม่อาจได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือตุลาการรัฐธรรมนูญ แล้วแต่กรณี อีก

มาตรา  ให้กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญซึ่งไม่ได้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา ๓ ได้รับค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่เป็นรายเดือน ในอัตราเท่ากับอัตราเงินประจำตำแหน่ง รวมกับเงินเพิ่มของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ

มาตรา  ให้กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และกรรมาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญ ได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งเฉพาะครั้งที่มาประชุมในอัตราครั้งละหนึ่งพันบาท

กรรมาธิการตามวรรคหนึ่งในคณะกรรมาธิการคณะหนึ่ง ให้มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมเพียงครั้งเดียวในวันหนึ่ง เว้นแต่ในกรณีที่กรรมาธิการนั้นมีการประชุมในคณะกรรมาธิการคณะอื่นหรือคณะอนุกรรมาธิการด้วยในวันเดียวกัน ให้ได้รับเบี้ยประชุมในวันนั้นไม่เกินสองครั้ง

มาตรา  ให้อนุกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ อนุกรรมาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และอนุกรรมาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญ ได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งเฉพาะครั้งที่มาประชุมในอัตราครั้งละห้าร้อยบาท

อนุกรรมาธิการตามวรรคหนึ่งในคณะอนุกรรมาธิการคณะหนึ่ง ให้มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมเพียงครั้งเดียวในวันหนึ่ง เว้นแต่ในกรณีที่อนุกรรมาธิการนั้นมีการประชุมในคณะอนุกรรมาธิการคณะอื่นด้วยในวันเดียวกัน ให้ได้รับเบี้ยประชุมในวันนั้นไม่เกินสองครั้ง

มาตรา  ในการรายงานตัวครั้งแรก ให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญซึ่งมีถิ่นที่อยู่นอกจังหวัดอันเป็นที่ตั้งสถานที่ที่ใช้ในการรายงานตัวได้รับค่าพาหนะในการเดินทางจากจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่มายังจังหวัดอันเป็นที่ตั้งสถานที่ที่ใช้ในการรายงานตัว และให้ได้รับค่าพาหนะในการเดินทางจากจังหวัดอันเป็นที่ตั้งสถานที่ที่ใช้ในการรายงานตัวกลับไปยังจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่ ทั้งนี้ ให้ได้รับเท่าที่จ่ายจริง

เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือสภาร่างรัฐธรรมนูญ ให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีถิ่นที่อยู่นอกจังหวัดอันเป็นที่ตั้งสถานที่ที่ใช้ในการประชุมสภาได้รับค่าพาหนะในการเดินทางเฉพาะครั้งแรกจากจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่มายังจังหวัด อันเป็นที่ตั้งสถานที่ที่ใช้ในการประชุมสภา หรือเมื่อสมาชิกภาพของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญสิ้นสุดลง ให้ได้รับค่าพาหนะในการเดินทางจากจังหวัดอันเป็นที่ตั้งสถานที่ที่ใช้ในการประชุมกลับไปยังจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่ ทั้งนี้ ให้ได้รับเท่าที่จ่ายจริง

มาตรา  เมื่อมีการประชุมคณะกรรมาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือคณะกรรมาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญ ให้กรรมาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือกรรมาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญซึ่งมีถิ่นที่อยู่นอกจังหวัดอันเป็นที่ตั้งสถานที่ที่ใช้ในการประชุมกรรมาธิการได้รับค่าพาหนะในการเดินทางจากจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่มายังจังหวัดอันเป็นที่ตั้งสถานที่ที่ใช้ในการประชุมกรรมาธิการ และเมื่อการประชุมกรรมาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือกรรมาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญสิ้นสุดลง ให้ได้รับค่าพาหนะในการเดินทางจากจังหวัดอันเป็นที่ตั้งสถานที่ที่ใช้ในการประชุมกรรมาธิการกลับไปยังจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่

ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่กรรมาธิการซึ่งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ

มาตรา  ให้ประธานสภาและรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานสภาและรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กรรมาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางในการปฏิบัติหน้าที่ และให้นำพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการมาใช้บังคับแก่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางตามมาตรานี้โดยอนุโลม โดยให้ได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับข้าราชการผู้ดำรงตำแหน่งระดับ ๑๑

ในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ ให้ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ มีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางในอัตราเดียวกับนายกรัฐมนตรี รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และรองประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ มีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางในอัตราเดียวกับรองนายกรัฐมนตรี ส่วนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กรรมาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญ และตุลาการรัฐธรรมนูญ ให้มีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางในอัตราเดียวกับข้าราชการผู้ดำรงตำแหน่งระดับ ๑๑

มาตรา ๑๐ ให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจัดใบเบิกทางโดยสารรถไฟ รถยนต์ประจำทาง และเครื่องบิน ให้แก่ประธานสภา รองประธานสภา และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อใช้ในการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่นอกจังหวัดอันเป็นที่ตั้งสถานที่ที่ใช้ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดใบเบิกทางโดยสารรถไฟ รถยนต์ประจำทาง และเครื่องบิน ให้แก่ประธานสภา รองประธานสภา และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อใช้ในการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่นอกจังหวัดอันเป็นที่ตั้งสถานที่ที่ใช้ในการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือกรรมาธิการ

เมื่อจัดให้มีใบเบิกทางตามมาตรานี้แล้ว ประธานสภาและรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานสภาและรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ไม่มีสิทธิได้รับค่าพาหนะในการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๙ อีก

มาตรา ๑๑ การเบิกเงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่ม และค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประธานสภาและรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รวมทั้งเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการเดินทางของกรรมาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติและอนุกรรมาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้เบิกจ่ายจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา

การเบิกเงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่ม และค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประธานสภาและรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ รวมทั้งค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการเดินทางของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญ อนุกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และอนุกรรมาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญ ให้เบิกจ่ายจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

การเบิกเงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่ม และค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประธานและรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ให้เบิกจ่ายจากสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

การเบิกเงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่ม และค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประธานและรองประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ และตุลาการรัฐธรรมนูญ ให้เบิกจ่ายจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ

มาตรา ๑๒ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

  • ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
  • พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
  • นายกรัฐมนตรี

บัญชี
อัตราเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของประธานสภาและรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
และสภาร่างรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ
สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ
และผู้ดำรงตำแหน่งในคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ
ตำแหน่ง เงินประจำตำแหน่ง
(บาท/เดือน)
เงินเพิ่ม
(บาท/เดือน)
ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ๖๕,๙๒๐ ๕๐,๐๐๐
รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ๖๔,๘๙๐ ๔๕,๕๐๐
สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ๖๒,๐๐๐ ๔๒,๓๓๐
ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ ๖๔,๘๙๐ ๔๕,๕๐๐
รองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ ๖๓,๘๖๐ ๔๒,๕๐๐
สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ๖๒,๐๐๐ ๔๒,๓๓๐
ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ๖๙,๒๒๐ ๕๐,๐๐๐
รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ๖๘,๑๔๐ ๔๕,๕๐๐
สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ๖๗,๐๖๐ ๔๒,๕๐๐
ประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ๖๔,๐๐๐ ๕๐,๐๐๐
รองประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ๖๔,๐๐๐ ๔๕,๕๐๐
ตุลาการรัฐธรรมนูญ ๖๒,๐๐๐ ๔๒,๕๐๐

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๓๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ บัญญัติว่า เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานสภาและรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาร่างรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา รวมทั้งสมควรกำหนดค่าตอบแทนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของกรรมาธิการ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

บรรณานุกรม แก้ไข

 

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตามมาตรา 7 (2) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1) ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2) รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3) ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4) คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5) คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"