พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา/ภาค 1/บท 8

แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒

เจ้าอ้ายพระยา เจ้ายี่พระยา ยกเข้ามาชิงกันจะเอาราชสมบัติ เจ้าอ้ายพระยามาตั้งตำบลป่ามะพร้าวที่วัดพลับพลาไชย เจ้ายี่พระยามาตั้งณวัดไชยภูมิ์ จะเข้าทางตลาดเจ้าพรหม ช้างต้นมาปะทะกันเข้าที่เชิงตะพานป่าถ่าน ทั้งสองพระองค์ทรงพระแสงของ้าวต้องพระสอขาดพร้อมกันทั้งสองพระองค์ มุขมนตรีออกไปเฝ้าเจ้าสามพระยาทูลการซึ่งพระเชษฐาธิราชขาดฅอช้างทั้งสองพระองค์ แล้วเชิญเสด็จเข้ามาในพระนครเสวยราชสมบัติ ทรงพระนาม สมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้า ท่านจึงให้ขุดเอาพระศพเจ้าอ้ายพระยา เจ้ายี่พระยา ไปถวายพระเพลิง ที่ถวายพระเพลิงนั้น ให้สถาปนาพระมหาธาตุแลพระวิหารเปนพระอาราม  แล้วให้นามชื่อ วัดราชบุรณะ ที่เจ้าอ้ายพระยา เจ้ายี่พระยา ชนช้างกันถึงพิราไลย ให้ก่อพระเจดีย์สององค์ไว้ที่เชิงตะพานป่าถ่าน.

ศักราช ๗๘๓ ปีฉลู ตรีนิศก สมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้าเสด็จไปเอาเมืองพระนครหลวงได้ ท่านจึงให้เอาพระยาแก้วพระยาไทยแลครัวกับทั้งรูปพระโครูปสิงห์สัตวทั้งปวงมาด้วย ครั้นถึงพระนครศรีอยุทธยา จึงให้เอารูปสัตวทั้งปวงไปบูชาไว้ณวัดพระศรีรัตนมหาธาตุบ้าง ไปไว้วัดพระศรีสรรเพชญ์บ้าง.

ศักราช ๗๘๖ ปีมโรง ฉศก สมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้าสร้างวัดมเหยงค์ สมเด็จพระราเมศวรเจ้าผู้เปนพระราชกุมารท่านเสด็จไปเมืองพระพิศณุโลก ครั้งนั้น เห็นน้ำพระเนตรพระพุทธเจ้าพระชินราชตกออกเปนโลหิต.

ศักราช ๗๘๘ ปีมเมีย อัฐศก ครั้งนั้น เกิดเพลิงไหม้พระราชมณเฑียรสถาน.

ศักราช ๗๘๙ ปีมแม นพศก ครั้งนั้น เกิดเพลิงไหม้พระที่นั่งตรีมุข.

ศักราช ๗๙๐ ปีวอก สำเรทธิศก สมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้าเสด็จไปเมืองเชียงใหม่ แลเข้าปล้นเมืองมิได้ พอทรงพระประชวร ทัพหลวงเสด็จกลับคืน.

ศักราช ๗๙๒ ปีจอ โทศก เสด็จขึ้นไปตีเชียงใหม่อิกครั้งหนึ่ง แลตั้งทัพหลวงตำบลท้ายกระเษม ได้เมืองเชียงใหม่ ครั้งนั้น ได้เชลยแสนสองหมื่น ทัพหลวงเสด็จกลับคืน.

ศักราช ๗๙๖ ปีขาล ฉศก สมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้าเสด็จสวรรคต อยู่ในราชสมบัติ ๑๗ ปี.