พิธีและคาถาในการทำนา/ตอน 2
เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองของชาวพุทธ ประชาชนโดยมากนับถือพุทธศาสนา ฉะนั้น การทำนาอันเป็นกสิกรรมที่ถือว่า เป็นกระดูกสันหลังของประเทศไทยโดยเฉพาะ จึงต้องมีเวทมนต์คาถาประกอบในการทำนา ขอให้ชาวนาซึ่งเป็นชาวพุทธถือปฏิบัติตามความเหมาะสมกับเหตุการณ์ดังต่อไปนี้:–
อิมินา มาลาบุปผะคันธะทัณฑะทีปะธูปาทิปะ ธูปาทิสักการานิ จะ อันนะปาณะสูปะพยัญชะนะปูวะผะลาผะละ เภสัชชานิ จะ อิมายะ พีระพันธุโพสะพะสิริมาตุยา ปูเชมะ อิมัสมิง ปัจจุบันนะกาเล อัมหากัง นิจจะกาลัง สัสสะพิชะธัญญะตัณฑุลาทีนัญจะ วิรุฬหิยา หิรัญญะสุวัณณาทิโภคานัญจะวุฑฺฒิยา ฯ
คาถาบทนี้เรียกว่า คาถาทำนา ก่อนจะลงมือปักกล้า ให้บูชาคุณพระรัตนตรัยและแม่โพสพเสียก่อน ให้ยกครูในวันพฤหัสบดี มีบายศรีปากชาม น้ำอบ น้ำหอม มาประพมต้นข้าวกล้าที่จะเพาะปลูก ให้จัดต้นกล้าให้ได้อย่างน้อย ๗ ต้น เสกคาถาดังกล่าว ๗ จบ แล้วนำต้นกล้าไปปักดำ ข้าวจะงอกงามดี วัว ควาย บุ้ง ปู ฯลฯ จะไม่เบียดเบียนทำอันตรายต้นกล้าเลย
โดยปรกติ เมื่อฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล วันตั้งทองของพันธุ์ข้าวมักตกใกล้ ๆ วันออกปุริมพรรษา (ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑) ให้จัดผลไม้ต่าง ๆ ทำบุญใส่บาตร (โดยมาก โบราณไม่จัดขนมหรือข้าวใส่บาตร เพราะถือว่า แม่โพสพตั้งท้อง ไม่กินเนื้อของตัวเอง⟨)⟩ อุทิศผลบุญให้แม่โพสพ บางแห่งก็จัดผลไม้ต่าง ๆ มีส้ม, กล้วย, ฯ⟨ลฯ⟩ ใส่ชะลอม ปักธงแดง–ธงขาวอย่างละ ๑ อัน ด้ายแดง–ด้ายขาวอย่างละเส้น ธูป ๕ ดอก เทียน ๑ เล่ม แล้วเข้าไปอัญเชิญแม่โพสพสู่ท้องนา เลือกข้าวพันธุ์ที่ก่อใหญ่ ๆ เขียวชะอุ่ม รวงงาม ๆ ที่กำลังตั้งท้อง สักหนึ่งกอ เอาไม้มาปักข้างกอข้าว ผูกด้ายแดง–ด้ายขาวกับกอข้าวกับไม้ เอาชะลอมที่จัดผลไม้นั้น มีธงแดง–ธงขาวปักไว้ข้าง ๆ กอข้าวทั้งสองข้างข้าวกอนั้น จัดหาที่ประดิษฐาน "แม่โพสพ" แล้วกล่าวคำสดุดี
คุณพระพุทธเจ้า | ๕๖ | |
คุณพระธรรมเจ้า | ๓๘ | |
คุณพระสังฆเจ้า | ๑๓ | |
คุณแม่โพสพ | ๓๙ |
ขออัญเชิญคุณแม่โพสพ, แม่นพเก้า มารับเครื่องบวงสรวงสังเวย (เป็นประเพณีจัดทำมาแต่ดึกดำบรรพ์สมัยฤๅษีประไลยโกฎ) ซึ่งได้จัดมาให้ "แม่โพสพ" เสวย แล้วขอเชิญพระแม่เจ้ามารับเครื่องเสวย เพื่อความสุขความเจริญต่อไป เมื่อเสร็จพิธีรับมิ่งขวัญ "แม่โพสพ" ตั้งท้องแล้ว ให้เสกด้วยพระคาถามาลัยแสนดังนี้:–
สาลีนัง เอกพีชานัง เอเกกัสมิง พีเช สหัสสขันธา ชายันติ เอเกกัสมิง ขันเธ สหัสปัพพาชายันติ เอกเกกัสมิง ปัพเพ สหัสส สีลานิ ชายันติ เอเกกัสมิง สีเล สหัสส ตัณฑุลานิ โหนติ ฯ
โดยมากมักกระทำการยกครูในวันอังคาร เสกด้วยพระคาถามาลัยแสนนี้ ๗ จบ ทำน้ำมนต์รดที่นาหรือที่สวน พืชผลธัญญาหารจะแตกใบงอกงามดี สัตว์แมลงต่าง ๆ ไม่รบกวนเบียดเบียน ป้องกันได้ทุกอย่างแล.
ในวันเก็บเกี่ยวพันธุ์ข้าวนี้ ให้นำเคียวที่จะใช้เก็บเกี่ยวไปวางไว้เบื้องหน้าแม่โพสพ กล่าวคำขอขมา–ขออนุญาตเก็บเกี่ยว เมื่อจะเริ่มเก็บเกี่ยว ให้ใช้มือซ้ายจับต้นข้าว มือขวาจับเคียว กลั้นใจกล่าวคำขอขมาด้วยพระคาถาว่า "อมฺม โพสาวเทวี ขมตุ เม โทสํ" แล้วจึงเก็บเกี่ยวต่อไป
เมื่อเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว ก็นำข้าวสู่ลานนวดที่จัดไว้ จัดการนวดข้าวเรียบร้อย วันดีที่เป็นมหาสิทธิโชคในการทำข้าวเข้าเก็บในยุ้งฉาง แต่โบราณกาลนิยมเอาวันครู (วันพฤหัสบดี) เป็นวันเก็บข้าวเข้ายุ้งฉาง ในระหว่างนี้ ขวัญของแม่โพสพยังตกอยู่ตามท้องไร่ท้องนา ยังห่วงลำต้นอยู่ ห้ามตัก–ตวงออกจากยุ้งฉางเป็นอันขาด จนกว่าจะทำขวัญข้าวแม่โพสพเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงตัก–ตวงได้ และโดยเฉพาะแม่โพสพเกิดในวันอาทิตย์ ชาวนาโดยมากนิยมกันไม่ตัก–ตวงข้าวออกจากยุ้งในวันอาทิตย์เป็นส่วนมาก เพื่อสวัสดิมงคลแก่แม่โพสพและครอบครัวของตนต่อไป
ให้จัดบายศรีปากชาม ๑ ที่ ธูป ๕ ดอก, เทียน ๑ เล่ม ดอกไม้ ๓ สี (ขวา แดง เหลือง) หมากพลู ๑ คำ, เครื่องเงินทองแก้วแหวนตามแต่จะจัดหาได้ ผลไม้ต่าง ๆ อาทิ กล้วย อ้อย ส้ม กระบอกไม้ไผ่ ๒ กระบอก กระบอกหนึ่งใส่น้ำมะพร้าวอ่อน อีกกระบอกหนึ่งใส่น้ำธรรมดา ให้จัดหารูปปั้นปู ปลา เต่า หอยโข่ง กบ ฯ⟨ลฯ⟩ อัญเชิญแม่โพสพมาวางไว้ในถาดหรือกระบุง ให้นำของทั้งหมดบรรจุลงไปให้หมดด้วย ให้เอาไม้สำหรับเขี่ยฟาง (ขอฉาย) ทำเป็นคาน ใช้ผ้า ๓ สี คือ สีเหลือง, สีขาว และสีกาบบัว พาดคลุมบนขอฉาย หาบหรือคอนไปสู่ท้องนา เสร็จแล้ว หาที่สำหรับวางแม่โพสพ เอาของต่าง ๆ ตั้งไว้ตรงหน้าแม่โพสพ จุดธูปเทียนประณมมือบูชาแม่โพสพ กล่าวคำเชิญขวัญสดุดีพระคุณแม่โพสพให้เสด็จมาชมบายสี–เครื่องบัดพลี ตลอดจนผ้า ๓ สี ทั้งแก้วแหวนเงินทอง ขอเชิญขวัญแม่โพสพมารับและเสวยเครื่องเซ่นสังเวยให้สบาย ฯ
เสร็จแล้ว ให้เก็บเมล็ดข้าวที่ร่วงหล่นอยู่ตามท้องนาที่เก็บเกี่ยวใส่กระบุง เอาไม้ขอฉายทำคานหาม เอามาวางไว้ในยุ้งฉางให้ครบ ๗ วัน จึงอัญเชิญแม่โพสพไปสู่ที่สักการบูชาต่อไป ต่อจากนั้น จึงตัก–ตวงขายได้ตามสะดวก (มีข้อห้ามแต่โบราณกาลว่า ไม่ควรตัก–ตวงข้าวออกจากยุ้งฉางในวันอาทิตย์เป็นวันขาด)
พี่น้องชาวนาผู้เป็นกระดูกสันหลังของชาติไทย และท่านพุทธศาสนิกชนคนไทยทั้งมวล ท่านคงทราบและประจักษ์ดีแล้วว่า "แม่โพสพ" มีพระคุณแด่พลโลกเพียงใด "แม่โพสพ" ได้เลี้ยงชีวิตเราท่านตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ตลอดจนทุกวันนี้ แม่โพสพทรงพระคุณ ๓๙ ประการ เทียบเท่ากับคุณแม่พระธรณี ๒๑ คุณแม่พระคงคา ๑๒ คุณแม่พระพาย ๖ มารวมกัน
ฉะนั้น กสิกรชาวไทยและพุทธศาสนิกชนทุกครัวเรือนจึงควรจัดสร้างรูปแม่โพสพไว้สักการบูชาประจำบ้านเรือนของตน เพื่อคุ้มครองวงศ์สกุล ตลอดจนลูกหลานเหลนซึ่งจะปฏิสนธิในภายหน้า และเพื่อเป็น "ประธาน" ในพิธีกรรมของ "เกษตรกร" ทุกครั้งที่จำเป็นจักต้องอัญเชิญไปเป็นมิ่งขวัญให้เกิดสวัสดิมงคลแก่ตนและผลงานของเกษตรกรรมนั้น ๆ
มนต์บทนี้เรียก คาถาแช่ข้าวสาร หรือคาถาน้ำข้าวแช่ เวลาแช่ข้าวจะนึ่งหรือหุง ให้เสกคาถาบทนี้ ข้าวจะออกเป็นเม็ดมากกว่าเดิม เวลานึ่งหรือหุ้งแล้วกินไม่หมด สัตว์ไม่เบียดเบียน
วิธีทำ ให้ยกครูวันอังคาร ขัน ๕ ให้เสกคาถาบทนี้ ๗ จบทำน้ำมนต์ใส่ข้าวแช่ ข้าวสารจะออกเม็ด กินไม่หมด สัตว์ไม่รบกวน
มนต์บทนี้เรียก คาถาแช่ข้าวปลูก ก่อนจะแช่หรือหมักข้าวปลูก เพื่อมิให้ข้าวปลูกเน่า เวลานำไปหว่านในนา ให้ข้าวงอกงาม ท่านให้เสกคาถาทำน้ำมนต์รดเสียก่อน
วิธีทำ ให้ยกครูวันพฤหัสบดี จัดข้าวตอก ดอกไม้ ประทีป ธูป เทียน อย่างละ ๕ คู่ แล้วเสกคาถาบทนี้ ๑๐๘ คาบทำน้ำมนต์รดลงในหม้อข้าวปลูก ข้าวปลูกจะงอกออกทุกเม็ด เวลานำไปหว่าน ข้าวกล้าจะงอกงามดีนักแล
มนต์บทนี้เรียกคาถา "ล้อมข้าวปลูก" เวลานำข้าวปลูกไปหว่านลงในนา ต้องการไม่ให้วัว ควาย หรือบุ้ง เพลี้ย มาทำลาย ให้เสกคาถานี้ ๑๐๘ จบทำน้ำมนต์รดในนา ป้องกันศัตรูพืชดีนักแล
ปักต้นนี้พุทธรักษา ปักต้นนี้ธัมมรักษา ปักต้นนี้สังฆรักษา ปักต้นนี้ท่านเสียให้กูได้ ปักต้นนี้ท่านให้กูมี ปักต้นนี้ให้ได้หมื่นเยียพันฉาง ปักต้นนี้ขวัญข้าวให้มารวม
มนต์บทนี้เรียก แรกต้นข้าว ก่อนจะนำต้นข้าวไปปักดำในนา ให้เตรียมต้นกล้าไว้ แล้วเสกทำน้ำมนต์รด
วิธีทำ ท่านให้ยกครูวันพฤหัสบดี ให้เตรียมต้นกล้ามา ๑๔ ต้น แล้วเสกมนต์นี้ ๗ จบทำมน้ำมนต์รดต้น แล้วนำปักดำในนา ข้าวกล้าจะงอกงามแตกดอกออกใบได้ผลดีแล
ไร่นี้ไร่ก้ำขวา นานี้นาท้าวทุม ท้าวทุมให้กูมาแรกนา กูจักแรก พญาให้กูมาแรกไร่ กูจักแรก ปักต้นนี้ ให้กูได้วัวแม่ลาย ปักต้นนี้ ให้กูได้ควายเขางาม ปักต้นนี้ นกจิบโตตาบอดให้บินหนี ปักต้นนี้ นกจอกโตตาแหวนให้บินหนี ปักต้นนี้ แมลงโตผู้ย่ำต้นข้าวให้บินหนี ปักต้นนี้ ให้ได้ฆ้องเก้ากำ ปักต้นนี้ ให้ได้คำเก้าหมื่น ปักต้นนี้ ให้อวนข้าวหมื่นมาเยีย ปีกต้นนี้ ให้มานใหญ่ท่อมานอ้อย ปักต้นนี้ ให้มานน้อยท่อมานเลา ปักต้นนี้ ให้ดูให้เป็นเศรษฐีจนแก่เฒ่า โอม สวาหะ
คาถาบทนี้เรียก คาถาปักต้นแรก ในเวลาลงมือปักดำ ให้เอาต้นกล้าที่เตรียมไว้ทั้ง ๑๔ ต้นเริ่มเสกแต่ต้นแรกจนถึงต้นสุดท้ายด้วยคาถานี้จนครบ ๑๔ จบพอดี โดยมากมักกระทำกันในวันครู (พฤหัสบดี) จักทำให้ข้าวกล้างอกงามดี ไม่มีศัตรูพืชมารบกวน เวลาเก็บเกี่ยว ได้พืชพันธุ์ธัญญาหารดีมาก.