ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ห้องสิน/เล่ม ๑/ตอน ๑๒"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าที่ถูกสร้างด้วย '{{:ห้องสิน/เล่ม ๑/หัว|๑๒|๑๑|๑๓|๑๕๗–๑๗๓}} ฝ่ายลิเจ้งซ...'
 
เข้าไป←เจ้าไป
 
บรรทัดที่ 6:
ฝ่ายลิเจ้งซึ่งรักษาด่านตันตึงก๋วน แดนเมืองจิวโก๋ เมื่อยังเด็กอยู่นั้น ลิเจ้งไปเที่ยวเรียนวิชากับผู้วิเศษริมเขาคุนหลุนซัวข้างทิศใต้ อาจารย์บอกวิชาให้ถึงห้าประการ เรียกว่า กี๋ม หนึ่ง ปัก หนึ่ง จุย หนึ่ง หวย หนึ่ง เทา หนึ่ง ลิเจ้งเรียนได้เท่านั้น ภาษาไทยว่า วิชาดำดินได้ ครั้นนานมา ลิเจ้งมีภรรยาคนหนึ่งชื่อ นางฮึนสี นางฮึนสีเกิดบุตรชายสองคน ผู้พี่ชื่อ กิมเฉีย ผู้น้องชื่อ บกเฉีย และนางฮึนสีนั้นยังมีครรภ์อยู่อีก กำหนดสามปีหกเดือนแล้วยังหาคลอดบุตรไม่ ลิเจ้งเป็นทุกข์นัก จึงเอามือชี้เข้าที่ท้องภรรยาว่า ท้องนี้นานนักหนาแล้วยังหาคลอดไม่ ถ้าคลอดออกมา เห็นจะเป็นปิศาจ นางฮึนสีได้ยินสามีว่าดังนั้นก็ทุกข์นัก ในเพลากลางคืนวันนั้น นอนมิใครจะหลับ ครั้นเพลาสามยามเศษ นางฮึนสีม่อยหลับไป จึงฝันว่า มีฤษีองค์หนึ่งเดินเข้าไปในห้องที่นอน นางฮึนสีจึงว่า ท่านมาแต่ไหน จึงบังอาจเข้ามาในห้องเรานี้ ฤษีจึงว่า เจ้าจงมารับเอาบุตรของเจ้าเถิด นางฮึนสียังมิทันจะตอบประการใด ฤษีก็เอาวางลงที่อกนางฮึนสี นางฮึนสีมิได้ว่าสิ่งอันใด ก็ตกใจตื่น แล้วปลุกสามีขึ้นเล่าความฝันให้ฟัง ยังมิทันสิ้นความ นางฮึนสีก็เจ็บท้อง ลิเจ้งลุกออกไปข้างนอก ให้หญิงคนใช้พยาบาลอยู่
 
ครั้นเพลาใกล้รุ่ง นางฮึนสีก็คลอดบุตรออกมา หญิงคนใช้จึงเจ้าเข้าไปบอกลิเจ้งว่า ภรรยาท่านคลอดบุตรแล้ว แต่หาเป็นรูปคนไม่ ลิเจ้งได้ฟังดังนั้นก็เสียใจ จึงถอดกระบี่เดินเข้ามา แลเห็นในห้องนั้นเป็นรัศมีสว่าง แล้วมีกลิ่นหอมประหลาด เห็นบุตรซึ่งคลอดออกมานั้นเป็นก้อนเนื้อกลิ้งอยู่ ลิเจ้งจึงเอากระบี่ฟันก้อนเนื้อนั้นลง พอได้ยินเสียงทารกร้องไห้ ลิเจ้งก็เอากระบี่แหวะออก เห็นทารกรูปงาม ผิวเนื้อขาวเป็นนวล มีกำไลใส่มืออยู่ข้างหนึ่ง แพรหลินพาดอกอยู่พับหนึ่ง แพรและกำไลนั้นรัศมีนัก ทารกนั้นลุกขึ้นเดินได้ ลิเจ้งมีความยินดี จึงเข้าอุ้มเอาบุตร แล้วว่า บุตรของเรานี้ชะรอยจะมาแต่สวรรค์ เมื่อแรกเราสงสัยว่า ปิศาจ แทบจะฆ่าเสีย ลิเจ้งก็อุ้มเอาบุตรไปให้ภรรยาดู นางฮึนสีก็มีความรักใคร่นัก
 
ครั้นเวลาเช้า นายทหารทั้งปวงก็ชวนกันไปเยือนลิเจ้งเป็นอันมาก คนใช้เข้าไปบอกลิเจ้งว่า หลวงจีนคนหนึ่งจะเข้ามาหาท่าน ลิเจ้งก็ออกไปคำนับ เชิญให้นั่งที่สมควร จึงถามว่า ท่านชื่อไร มาแต่ไหน หลวงจีนจึงบอกว่า เราชื่อ ไทอิดจินหยิน อยู่ถ้ำกี๋มกวางตั้ง ณ เขาเขียนงวนซัว ซึ่งมานี้แจ้งว่า ภรรยาท่านคลอดบุตร จะขอชมบุตรท่านสักหน่อยหนึ่ง ลิเจ้งได้ฟังดังนั้นก็ใช้ให้คนไปอุ้มเอาบุตรมาให้ไทอิดจินหยิน ไทอิดจินหยินรับเอาแล้วจึงถามว่า บุตรท่านนี้คลอดเพลาไร ลิเจ้งจึงบอกว่า คลอดเมื่อเพลาใกล้รุ่ง ไทอิดจินหยินจึงว่า บุตรท่านคนนี้คลอดเวลาหาดีไม่ ลิเจ้งสงสัยนัก จึงว่า บุตรข้าพเจ้าคนนี้เลี้ยงไม่รอดหรือ ไทอิดจินหยินจึงว่า หาเป็นดังนั้นไม่ เราเห็นว่า บุตรท่านคนนี้นานไปเบื้องหน้าจะต้องรบศึกถึงพันเจ็ดร้อยครั้ง แล้วไทอิดจินหยินว่า ท่านให้ชื่อบุตรแล้วหรือยัง ลิเจ้งก็บอกว่า ยังหาได้ให้ชื่อไม่ ไทอิดจินหยินจึงว่า ถ้าท่านให้เป็นศิษย์เรา เราจะให้ชื่อ ลิเจ้งก็ยอมให้ ไทอิดจินหยินจึงถามว่า บุตรท่านมีกี่คน ลิเจ้งบอกว่า บุตรข้าพเจ้ามีสามคน คนหัวปีนั้นนชื่อ กิมเฉีย ข้าพเจ้าให้เป็นศิษย์ฮวดเทียนจุ๋น อยู่ในถ้ำหันเซียวตัง ณ เขางวนเลงซัว บุตรคนหนึ่งชื่อ บกเฉีย ให้เป็นศิษย์เผาเหียนจินหยิน อยู่ในถ้ำแปะเฮาะตั้ง ณ เขากิวเกงซัว แต่บุตรคนนี้ข้าพเจ้าจะให้เป็นศิษย์ท่าน ตามแต่ท่านจะให้ชื่อเถิด ไทอิดจินหยินจึงให้ชื่อบุตรลิเจ้งว่า โลเฉีย ลิเจ้งก็มีความยินดีนัก จึงแต่งโต๊ะเชิญไทอิดจินหยินกิน ไทอิดจินหยินจึงว่า ของอย่างนี้เรากินไม่ได้ แล้วไทอิดจินหยินก็ลาไป