รวบรวมคำแถลงการณ์และประกาศต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

- รวบรวมคำแถลงการณ์และประกาศต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว- ได้ประกาศแก่ข้าราชการฝ่ายทหาร, พลเรือน และราษฎรทั่วไป... - "โรงพิมพ์ศรีกรุง ผู้รวบรวมพิมพ์"

คำนำ

ด้วยในการพระราชทานเพลิงศพนายทหารนายตำรวจผู้กล้าหาญซึ่งได้ประสพภัยวายชีพไปในการปราบกบฏครั้งนี้ มีจำนวนรวม ๑๗ ศพด้วยกัน คือ

  1. นายพันโท หลวงอำนวยสงคราม (ถม เกษะโกมล)
  2. นายร้อยเอก ขุนศุกรนาคเสนีย์ (เจือ ศุกรนาค)
  3. นายร้อยตำรวจเอก ขุนประดิษฐสกลการ (ไปล่ จันทประดิษฐ)
  4. นายร้อยโท น่วม ทองจรรยา
  5. นายร้อยตำรวจตรี ทอง แก่นอบเชย
  6. นายดาบ ละมัย แก้วนิมิตร์
  7. นายดาบ สมบุญ บัวชม
  8. จ่านายสิบ หล่อ วงศ์พราม
  9. จ่านายสิบ แฉล้ม ศักดิ์ศิริ
  10. นายสิบเอก ขั้ว เชือกพุ่งใหญ่
  11. นายสิบเอก เช้า ศุขสวย
  12. นายสิบเอก บุญช่วย สุมาลย์มาศ
  13. นายสิบเอก พัน ยังสว่าง
  14. นายสิบเอก จัน ศุขเนตร์
  15. นายสิบเอก ดา ทูคำมี
  16. นายสิบเอก หลิม เงินเจริญ
  17. นายสิบเอก ทองอิน เผือกผาศุก

ซึ่งล้วนแต่เปนผู้ที่มีเลือดเนื้อ รักประเทศชาติและรัฐธรรมนูญยิ่งกว่าชีวิต และมีความองอาจกล้าหาญทรหดอดทน โดยเห็นประโยชน์ของประเทศชาติเปนที่ตั้ง มิได้คิดเปนห่วงหลังอาลัยถึงชีวิตของตนและของครอบครัวแม้แต่น้อย ซึ่งประชาชนทั่วทั้งประเทศสยามจะลืมคุณงามความดีของท่านผู้มีนามปรากฎดังข้างต้นนี้เสียมิได้เลยตราบชั่วกัลปาวสาน

โรงพิมพ์ศรีกรุงสมัครมีส่วนช่วยเหลือร่วมงานในการพระราชทานเพลิงศพท่านผู้กล้าหาญครั้งนี้ด้วย จึงได้รวบรวมคำแถลงการณ์และประกาศต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ประกาศแก่ข้าราชการฝ่ายทหาร, พลเรือน และราษฎรทั่วไป ในการที่ได้เกิดมีกบฏขึ้นในพระราชอาณาจักร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ เปนต้นไป หรือเริ่มแต่ประกาศใช้กฎอัยการศึก จนถึงประกาศเลิกใช้กฎอัยการศึก พร้อมด้วยภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ และภาพผู้กล้าหาญทำการปราบกบฏครั้งนี้ พิมพ์ขึ้นเปนของชำร่วย หนังสือเล่มนี้รวมขึ้นจากเล่มย่อย ๖ เล่มซึ่งรัฐบาลได้เคยพิมพ์แจกจ่ายเปนคราว ๆ มาแล้ว

คำแถลงการณ์และประกาศของรัฐบาลเล่มนี้ นับว่าเปนประวัติการณ์อันมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับประกอบความจดจำถึงการที่ได้เกิดกบฏ พ.ศ. ๒๔๗๖ ขึ้นในพระราชอาณาจักร์ และเปนประโยชน์ในการที่จะค้นคว้าหาหลักฐานความจริงและเหตุการณ์ใด ๆ ที่ได้ผ่านไปแล้ว ซึ่งกระจัดกระจายกันอยู่ ให้สดวกยิ่งขึ้น มีคุณประโยชน์แก่ผู้ที่ได้รับแจกเปนอย่างดี

อนึ่ง การรวบรวมหนังสือเล่มนี้ได้ทำโดยปัจจุบันทันด่วนเพื่อให้ทันงาน จึงเปนการจำเปนต้องมีความไม่เรียบร้อยด้วยประการต่าง ๆ ทั้งนี้ ขออภัยต่อท่านผู้ได้รับหนังสือนี้ทั่วไปด้วย

ด้วยอำนาจกุศลบุญราษีซึ่งเกิดจากทักษิณานุปทานแห่งการแจกหนังสือนี้ ขอจงเปนวิบากราษีอำนวยอิฏฐวิบูลผลแด่บรรดานายทหารและนายตำรวจผู้มีคุณแก่ประเทศสยาม ตามที่ได้กล่าวนามมาแล้วข้างต้นนั้น ตามควรแก่ฐานะนิยมทุกประการเทอญ

โ ร ง พิ ม พ์ ศ รี ก รุ ง
วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๗๖

ก บ ฎ พ่ า ย แ พ้ พิ น า ศ
เพราะกำลังน้ำใจของคนสำคัญและอำนาจอาวุธสำคัญของฝ่ายรัฐบาล
พ.อ. พระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรี ผู้เปนหัวแรงสำคัญฝ่ายทหารในการปราบกบฎ
หลวงประดิษฐมนูธรรม หัวแรงสำคัญฝ่ายพลเรือนในการปราบกบฏ
พ.ท. หลวงพิบูลสงคราม ผู้บังคับกองผสมทำการปราบกบฎอย่างองอาจกล้าหาญ
กำลังกว้านรถเกราะขึ้นบรรทุกรถไฟไปยิงพวกกบฎที่บางเขน

พ.ท. หลวงอำนวยสงคราม
ผู้วายชนม์ในการปราบกบฎ

กำลังส่องกล้องตรวจแนวรบที่บางเขนก่อนหน้าวายชนม์วันเดียวเท่านั้น
ร.อ. ไชย ประทีปเสน ประจำกองบังคับการผสม กระทำการปราบกบฎอย่างองอาจตั้งแต่ต้นจนที่สุด
ร.อ. บุศรินทร์ ภักดีกุล ประจำ ป.ต.อ. รุกไล่ยิงกบฎเรื่อยไป จนถึงโคราชเปนที่สุด
แห่ศพนายทหารหาญผู้วายชนม์เพื่อชาติ
และรัฐธรรมนูญ ไปประดิษฐานณศาลาวัดราชาธิวาศ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๖

พ.ต. หลวงเสรีเริงฤทธิ
ผู้บังคับกองพันสื่อสารซึ่งรัฐบาลส่งไปเจรจากับฝ่ายกบฎ เลยถูกกบฎจับตัวขังไว้ที่อยุธยา
ปืนใหญ่ฝ่ายรัฐบาลกำลังตั้งยิงทหารฝ่ายกบฎที่สถานีบางเขนอย่างใจเย็น กระทำให้ฝ่ายกบฎต้องถอยหนีเปนอลหม่าน
ปืนกลหนักของฝ่ายรัฐบาลกำลังยิงกราดและรุกเข้าไป กล่องถ่ายภาพยนตร์ของรัฐบาลซึ่งหลวงกลการเจนจิตเปนผู้ถ่ายก็ตามติดเรื่อยเข้าไปทุกระยะกระทั่งถึงโคราช
ร.อ. ขุนศรีศรากร
ซึ่งรัฐบาลส่งไปสืบเหตุการณ์ที่โคราช เลยถูกพวกกบฎจับขังไว้ที่โคราช

น า ย ท ห า ร รั ฐ บ า ล ซึ่ ง ทํ า ก า ร ป ร า บ ก บ ฎ อ ธ ร ร ม
พ.ท. พระเริงรุกปัจจามิตร์ ผ.บ.ก. กองรบ มีชัยตอนสำคัญที่หินลับจนยกเข้ายึดโคราชได้
พ.ต. หลวงวีระโยธา ผ.บ.ก. ร.พัน๖ วึ่งเข้าตลุมบอนที่หินลับ ฆ่า ‘ดิ่น ท่าราบ’ ตาย
พ.ท. พระประจนปัจจนึก ผ.บ.ก. กองรบส่วนที่ ๓ จากโคราชไปถึงอุบล
พ.ท. หลวงสินาดโยธารักษ์ ผู้บังคับปืนใหญ่ปราบกบฎ
พ.ต. หลวงพรหมโยธี ผ.บ.ก. ร.พัน๓ ทำการปราบกบฎอย่างสามารถ
พ.ต. หลวงวิชิตสงคราม เสนาธิการกองรบตอนตีหินลับและยกเข้ายึดโคราช

ป.ต.อ. บรรทุกรถไฟรุกไล่พวกกบฎแตกหนีเรื่อยไป จนกระทั่ง
เข้ายึดสถานีปากช่องได้ ก็ไชโยกันสนั่นหวั่นไหว ดังปรากฎในภาพข้างบนนี้
รถเกราะชนิดต่าง ๆ ตั้งกระบวนอยู่หน้ากองบังคับการจังหวัดทหารบกนครราชสิมา
เมื่อมีการสวนสนามครั้งใหญ่

พ.ท. พระอุดมโยธาธิยุตก์
ผู้อำนวยการซ่อมสพานและทางรถไฟที่ถูกพวกกบฎทำลาย
นายช่างกำลังสร้างสพานรถไฟที่พวกกบฎเอาไฟเผาพินาศ ระวางสถานีสีคิ้วกับสถานีสูงเนิน
รถเกราะและรถบรรทุกทหารหุ้มเกราะยกจากสถานีสีคิ้วจะเข้ายึดจังหวัดนครราชสิมา

งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า

ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
  2. ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
    1. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
    2. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
  2. แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก