หน้า:กม ร ๕ (๑) - ๒๔๓๖.pdf/129

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
เล่ม ๑
117
ลักษณให้พระบอกศักราช

พระบรมสักยมุนีศรีสรรเพชพุทธเจ้านั้นเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานมาล่วงแล้ว ๒๔๑๗ พรรษาถ้วน จะกล่าวกาลปัจจุบันวันหนึ่งบัดนี้ปีจอนักษัตร ฉศก เดือน ๖ แรมค่ำหนึ่ง วันเสาร์ เปนปัจจุบันวาร ยังพระพระพุทธสาสนกาล ส่วนอนาคตซึ่งกำหนดว่าจะมาจะเปนไปณเบื้องน่านั้นอีก ๒๕๘๒ พรรษาเสศ ก่อนกาลที่วันไพศาขปุรณมีจะมา ยังอีก ๑๒ เดือน ด้วยอำนาจปีอธิกมาศกับ ๒๙ วัน รวมพระพุทธสาสนกาลสามส่วน ประมวนณที่อันเดียวกัน จึ่งบันจบครบ ๕๐๐๐ พรรษา ตั้งแต่ณวันเสาร์ เดือนหก แรมสองค่ำไป ยกคำว่าถ้วนออกเสีย ครั้นถึงเดือนแปด บุรพาสาธ ซึ่งเปนเดือนอธิกมาศนั้น เพิ่มคำว่าอธิกมาสภูเตไว้น่าเดือนว่า อิมัศมิงปัจจุบันนกาเล โสณสังวัชฉเร คิมหอุตุมหิอธิกมาศภูเต บุพพาสาฬหะมาเส สุกกปักเข ปาฏิปะเท สสิวาเร อนาคเตกาเล ฯลฯ ภวิสสันติ ดังนี้

เมื่อถึงเดือนแปด อุตราสาธ ขึ้นค่ำหนึ่ง บอกว่า อุกาสะ ฯลฯ ปัฏฐายะ อธิกะมาสะวะเสนะ ปัณณระสะทิวะสุตตระทวิมาสาธิกะสัตรสสังวัจฉรรุตตระจตุสตาธิกานิเทวสังวัจฉระสหัดสานิอเหสุง อิมัศมิงปัจจุปันนกาเล ฯลฯ ภวิสันติ ๚ ไปกว่าจะถึงวันเดือนหก ขึ้นสิบห้าค่ำ ปีกุญ สัปตศก ให้ท่านผู้จะบอกพุทธศักราชบอกตามแบบนี้ในปีซึ่งมีอธิกมาศต่อ ๆ ไปจนทุกปีซึ่งมีอธิกมาศนั้นเทอญ