สำหรับหอรัษฎากรพิพัฒน์
๏ศุภมัศดุ ลุศักราช ๑๒๓๕ กุกุฎสังวัจฉระ เชฐมาศ ชุสณปักษ นวมีดิถี พุฒวาร ปริเฉทกาลกำหนด พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพย์มหามงกุฎ บุรุศย์รันราชรวิวงษ วรุตมพงษบริพัฒ วรขัติยราชนิกโรดม จาตุรันตะบรมมหาจักรพรรติราชสังกาศ บรมธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนารถบพิตร พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออกณพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมหัยสวรริยพิมาน โดยสถานอุตราภิมุข พร้อมด้วยพระบรมราชวงษานุวงษแลข้าทูลลอองธุลีพระบาท เฝ้าเบื้องบาทบงกชมาชโดยลำดับ จึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริห์ว่า เงินภาษีอากรซึ่งขึ้นในท้องพระคลังทั้งปวง ซึ่งจะได้เปนกำลังทำนุบำรุงแผ่นดินต่อไปนั้น เจ้าภาษีรับทำอากรไป เงินหลวงก็ค้างสะสมอยู่มาก ต้องเร่งรัตอยู่เสมอไม่ขาด ก็ไม่ใคร่จะได้เงินมาทันใช้ราชการ ที่ต้องขาดสูญไปเสียโดยมาก การค้าขายที่กรุงเทพฯ ก็ไม่มีความเจริญ เพราะจีนซึ่งมารับทำภาษีแล้วเอาเงินไปใช้ในการอื่น ๆ เสียเงินหลวงก็ค้างทับหนักลง ถ้าเร่งนักก็ต้องล้มต้องเลิกกันไป ไม่เปนคุณในแผ่นดิน แลลูกค้าทั้งปวงก็ไม่ตั้งอยู่ได้เพาะไม่มีธรรมเนียมแลเจ้าพนัก