หน้า:กม ร ๕ (๔) - ๒๔๓๗.pdf/23

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
เล่ม ๔
1237
ลักษณพินัยหลวง

ชั่วของผู้ทุจริตได้ เพราะฉนั้น จึงมีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัสเหนือเกล้าฯ สั่งว่า ตั้งแต่นี้ต่อไป ถ้ากรมใดมีความที่ผู้ปรับ ๆ มีเงินพิไนยหลวงก็ดี ฤๅความที่อธิบดีกรมตัดสินเอง มีเงินพิไนยหลวงก็ดี ให้เจ้าพนักงานกรมนั้นทำใบสัจฤๅคำตัดสินไปประทับตรากรมสร่วย กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ เสียก่อน จึงมาเร่งเงินต่อผู้ต้องปรับตามจำนวนเงินที่ผู้ปรับ ๆ แลอธิบดีกรมตัดสินมานั้น กรมสร่วย กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ จะไม่เรียกเงินคาตราแลค่าธรรมเนียมสิ่งไรต่อเจ้าพนักงานผู้นำไปประทับแลผู้ต้องปรับเลยเปนอันขาด สำหรับจะได้เปนคู่สอบของเจ้าพนักงานกรมสร่วย กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ เพื่อเปนการเชิดชูความดีของผู้สุจริต แลเปนเขตรป้องกันความชั่วของผู้ทุจริต กับจะได้เปนการเรียบร้อยสมควรแก่ราชการต่อไป ถึงกำหนดงวดสามเดือน ให้กรมศาลต่าง ๆ งบบาญชีไปยื่นต่อเจ้าพนักงานกรมสร่วย กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ตามเคย ถ้ากรมใดยื่นหางว่าวขาดเงินพิไนยหลวงจากบาญชีรายประทับตราก็ดี ฤๅความรายใดที่ผู้ปรับ ๆ ฤๅอธิบดีตัดสินมาแล้วก็ดี ขุนศาลตระลาการหานำไปประทับตรากรมสร่วย กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ไม่ ปิดบังไว้เร่งเงินต่อผู้ต้องปรับเปนอาณาประโยชน ไม่นำส่งต่อเจ้าพนักงานกรมสร่วยก็ดี มีผู้มาร้องฟ้อง พิจารณาเปน