มาตรา ๑๕ ซึ่งประกาศให้ใช้ในกรุงเทพฯ แต่วันที่ ๑ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๑๑ นั้น ให้ยกเสีย คงให้ใช้ตามข้อความเดิมที่เพิ่มเติมใหม่นี้ตั้งแต่วันออกประกาศนี้ไป
มาตรา๒ผู้หนึ่งผู้ใดมีความประสงค์จะฆ่าสัตว์พาหนะชำแหละเนื้อสำหรับเปนอาหารแล้ว ต้องขอเจ้าพนักงานกองตระเวรตรวจก่อน เมื่อเจ้าพนักงานกองตระเวรได้ตรวจ มีความพอใจว่าสมควรจะฆ่าชำแหละเปนอาหารสำหรับมนุษย์บริโภคได้ แลตั๋วพิมพ์รูปพรรณนั้นก็ถูกต้องแล้ว จะให้อนุญาตใบอาชญาบัตร จึงจะฆ่าสัตว์พาหนะได้
มาตรา๓บรรดาผู้ที่ฆ่าสัตว์พาหนะชำแหละเนื้อจำหน่ายขายเปนอาหารนั้น ต้องเสียค่าใบอาชญาบัตรศีศะละกึ่งตำลึง แต่ลูกสัตว์พาหนะต่ำกว่า ๔๑ นิ้วกึ่งนั้น เสียค่าใบอาชญาบัตรแต่ศีศะละ ๑ บาท
มาตรา๔ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดจำหน่ายขายเนื้อสัตว์พาหนะฤๅเอาเนื้อสัตว์พาหนะที่ฆ่าโดยไม่ได้รับอนุญาตของกองตระเวรออกขายก็ดี ฤๅเปนเนื้อสัตว์พาหนะที่ตายเองอย่างใดอย่างหนึ่งออกขายก็ดี ต้องรับโทษแลเสียเบี้ยปรับไหมอันมีพิกัดกำหนดแจ้งอยู่ในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัตินี้ แลทั้งต้องถูกริบเนื้อนั้นด้วย
มาตรา๕ผู้หนึ่งผู้ใดกระทำผิดต่อข้อหนึ่งข้อใดในพระราชบัญญัตินี้ ให้เสียค่าปรับไหมพิไนยหลวงไม่เกินกว่า ๑๕๐ บาท ฤๅให้ต้องโทษจำไว้ใช้การหนักฤๅไม่หนักเกินกว่าหนึ่งเดือน
ประกาศมาแต่กระทรวงนครบาล วันที่ ๑๙ มกราคม รัตนโกสินทรศก ๑๑๔ ตรงกับวันที่ ๙๙๓๑ ในรัชกาลปัตยุบัน