ทรงพระราชดำริห์ว่า คำว่า "หนู" เปนศัพท์ที่เพี้ยนมาจากภาษาจีนว่า "อินู" ไม่สมควรใช้สำหรับเปนคำนำนามเด็กที่เปนเชื้อชาติสยามแท้ จึงได้ทรงยกเลิกเสีย ให้คงใช้คำว่า "เด็ก" ซึ่งเปนคำไทยแท้นั้นแต่คำเดียว
แต่เมื่อมีผู้มิได้รู้จริงแลมิได้ใฝ่ใจสอบสวนถึงมูลเดิมแห่งความเปลี่ยนแปลงนั้นนั้น เกิดมีความเข้าใจผิดคิดเห็นมากมายไปเกินกว่าความตั้งพระราชหฤทัยแท้จริงฉนี้ จึงมาทรงพระราชดำริห์ใคร่ครวญดูว่า การที่จะใช้คำนำนามเด็กว่ากระไรนั้น แท้จริงก็มิใช่เปนสิ่งที่สำคัญในทางรัฐประศาสน์ คือ มิได้เปลี่ยนแปลงสถิติหรือนิติธรรมของกรุงสยามอย่างใด ๆ เลย มิควรที่จะให้บังเกิกเปนข้อที่ทำให้ใคร ๆ เก็บไปเดือดร้อนรำคาญจนต้องเปลืองเวลาคิดไปต่าง ๆ ให้เสียเวลาที่ควรใช้ประกอบอาชีพให้เปนประโยชน์ดีกว่า
เมื่อมาปรากฎขึ้นว่า พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยคำนำนามเด็กนั้นมิได้ให้คุณความสดวกสมพระราชประสงค์ แต่ตรงกันข้าม กลับเปนเครื่องทำให้เปลืองเวลาและความคิดของข้าแผ่นดินเช่นนี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยคำนำนามเด็ก พ.ศ. ๒๔๖๔ นั้นเสียแต่บัดนี้เปนต้นไป
ประกาศมาณวันที่ ๗ พฤศจิกายน พระพุทธศักราช ๒๔๖๔ เปนปีที่ ๑๒ ในรัชกาล