หน้า:คำพิพากษาคดีกบฏ - กรมโฆษณาการ - ๒๔๘๒.pdf/25

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๒

ไปประชุม ได้พูดในที่ประชุมนั้นว่า พระยามโนปกรณ์นิติธาดา เป็นผู้ใหญ่และทำงานไปได้อย่างเรียบร้อยราบรื่น ได้ขอร้องอย่าให้ไปโต้เถียงคัดค้านพระยามโนปกรณ์นิติธาดา แต่ที่ประชุมเห็นว่าไม่ถูกจึงไม่ยอมปฏิบัติตาม แต่นั้นมามีความรู้สึกกันทั่วไปว่าพระยาทรงสุรเดชกับคณะผู้ก่อการชั้นผู้น้อยไม่ลงรอยกัน จึงจัดการจะให้พวกผู้ก่อการที่คัดค้านพระยามโนปกรณ์นิติธาดา นั้นไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศเสีย แต่ไม่มีใครยอมไป

การที่พระยามโนปกรณ์นิติธาดาขัดขืนบริหารราชการอยู่ได้นั้น ก็เพราะพระยาทรงสุรเดชกับพวกเป็นผู้สนับสนุน นอกจากนี้พระยาทรงสุรเดช ได้ปรารภต่อหลวงสินธุสงครามชัย ร.น. ว่า พวกผู้ก่อการโดยมากเป็นเด็กไม่รู้จักสัมมาคารวะ พระยาทรงสุรเดชไม่เชื่อความสามารถผู้ก่อการและพระยาพหลพลพยุหเสนา และพระยาทรงสุรเดชยกตัวเองว่าเป็นผู้มีความรู้ดีกว่าพวกผู้ก่อการทั้งหลาย เคยกล่าววาจาดูถูกพระยาพหลพลพยุหเสนาบ่อย ๆ แต่กล้าวยกย่องชมเชยพระสิทธิเรืองเดชพลว่าเป็นนายทหารที่ดีที่สุดในกองทัพบก พระยาทรงสุรเดชมีนิสสัยเป็นคนชอบดูถูกคน ใครแสดงความคิดเห็นอย่างใดมา พระยาทรงสุรเดชมักจะหัวเราะเยาะ นอกจากนั้นพระยาทรงสุรเดชยังได้จัดเอาพวกของตนมาไว้ให้คุมกำลังทหารที่มีอาวุธดี และได้เคยพูดว่าให้เลิกทหารเสียก็ดีกว่า ถึงทหารบกก็เอาไว้แต่พวกรถรบสำหรับกรุงเทพฯ เท่านั้น ส่วนทหารเรือไม่จำเป็นต้องมี การที่พระยาทรงสุรเดชพูดเช่นนี้ ก็เพื่อที่จะทำอะไรได้ตามชอบใจ เมื่อทหารไม่มีแล้วย่อมไม่มีใครมาแย่งอำนาจได้

ต่อมาในวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๖ ได้มีประกาศให้ปิดสภาผู้แทนราษฎร การที่ปิดสภาผู้แทนราษฎรนั้น ก็เนื่องมาจากพระยามโนปกรณ์นิติธาดากับพวกได้ทะเลาะกับผู้ก่อการถึงเรื่องงบประมาณแผ่นดิน กับเรื่องเค้าโครงการเศรษฐกิจของหลวงประดิษฐมนูธรรม การที่พระยามโนปกรณ์นิติธาดาปิดสภาผู้แทนราษฎรได้ ก็เพราะพระยาทรงสุรเดชกับพวกซึ่งควบคุมกำลังทหารสนับสนุนจึงกระทำการสำเร็จ ก่อนที่จะปิดสภาผู้แทนราษฎร หม่อมเจ้าวิบูลย์สวัสดิ์วงศ์ ราชเลขานุการประจำพระองค์