หน้า:คำพิพากษาฯ รัชกาลที่ 8 - ๒๔๙๘.pdf/703

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๕๐

ถึงข้าราชการผู้ใหญ่นั้นว่า เป็นใคร นายตี๋ไม่ยอมบอก อ้างว่าเป็นผู้มีบุญคุณ เกรงจะเป็นที่เสียหาย นายตี๋ได้กำชับเป็นหนักหนาว่า รู้แล้วอย่างนี้ อย่าพูดให้ใครฟังต่อไป ครั้นนายชวนกลับไปแล้ว ขุนเทพฯ นึกถึงบ้านข้าราชการผู้ใหญ่ที่นายตี๋พูด ก็เข้าใจว่า เป็นบ้านพลเรือตรี กระแส จึงถามนายตี๋โดยเฉพาะตัว นายตี๋ก็รับว่า ใช่ แล้วเลยขยายความให้ขุนเทพฯ ฟังต่อไปว่า มีคนไปประชุมกันที่นั้นหลายคนและหลายครั้ง ผู้ที่ไปประชุมกับหลวงประดิษฐ์ฯ มีนายเฉลียว นายชิต นายตุ๊ โดยได้ยินเขาเรียกชื่อกัน นอกจากนั้นไม่รู้จักชื่อ

เมื่อขุนเทพฯ ได้ทราบจากนายตี๋เช่นนั้น เกิดกังวล ในที่สุด ตัดสินใจจะบอกความแก่เจ้าหน้าที่ ต่อมา วันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๔๙๑ ตรงกับวันอาทิตย์ เวลาเช้า ไปเที่ยวตลาดนัดท้องสนามหลวง เผอิญพบหลวงแผ้วพาลชนซึ่งเคยรู้จักกันมาตั้งแต่เล็ก จึงถือโอกาสเล่าเรื่องที่ทราบจากนายตี๋ หลวงแผ้วพาลชนขอติดต่อกับนายตี๋ ขุนเทพฯ จึงโทรเลขถึงนายตี๋ว่า ต้องการพบด่วน เมื่อนายตี๋ลงมาที่บ้านขุนเทพฯ ตามโทรเลขแล้ว ขุนเทพฯ ลอบโทรศัพท์ถึงหลวงแผ้วพาลชนว่า นายตี๋มาแล้ว ให้มาพบ อย่าแต่งเครื่องแบบ หลวงแผ้วพาลชนก็มาที่บ้านขุนเทพฯ ๆ แนะนำให้นายตี๋รู้จักว่า เป็นเพื่อนเรียนหนังสือกันมาแต่เล็ก ร่วมคุยกันถึงเรื่องการค้าขายสักครู่ แล้วคุยถึงข่าวสวรรคต ขุนเทพฯ ว่า นายตี๋นี่แหละ รู้ข่าวสวรรคตดี หลวงแผ้วฯ ถามนายตี๋ ๒–๓ คำ แล้วแสดงตัวว่าเป็นตำรวจ นายตี่ตกตลึงนิ่งอึ้งอยู่ ขุนเทพฯ