หน้า:คำสั่งศาลอาญา ๒๕๖๔-พศ๗๖.pdf/4

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
 (๓๑ พ.)
สำหรับศาลใช้
 
ตราครุฑ
ตราครุฑ
– ๔ –

และมาตรา ๒๐ วรรคสี่ บัญญัติให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้แก่การพิจารณาคำร้องดังกล่าวโดยอนุโลม เห็นว่า เมื่อพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ไม่ได้มีถ้อยคำที่แสดงให้เห็นว่า จะต้องนำบทบัญญัติส่วนใดในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้ การที่ศาลจะนำกระบวนการไต่สวนฝ่ายเดียวทำนองเดียวกับการพิจารณาคำขอหมายค้นและหมายจับของเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๕๙ และบทมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง มาใช้บังคับ ไม่สอดคล้องกับเรื่องนี้ เพราะกระบวนพิจารณาในชั้นขอหมายค้นและหมายจับเป็นบทบัญญัติที่ให้อำนาจศาลเข้าไปควบคุมกระบวนการในชั้นสอบสวนของเจ้าพนักงาน ซึ่งตามกระบวนการ เมื่อมีการดำเนินการค้นและจับแล้ว คดีจะต้องเข้าสู่การพิจารณาของศาลอีก ซึ่งศาลย่อมมีโอกาสในการตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงต่อไป อีกทั้งโดยสภาพของการค้นและจับ เป็นงานที่จะต้องกระทำโดยฉับไวเพื่อให้บรรลุผลในการปราบปรามอาชญากรรม แต่การออกคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคคลโดยชัดแจ้งและถาวร เมื่อสิ้นสุดกระบวนการแล้ว ไม่มีโอกาสให้ผู้ใดได้โต้แย้งอีกต่อไป การอนุโลมใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่ถูกต้องแก่คำร้องเช่นนี้ สมควรที่จะรับพิจารณาเสมือนหนึ่งเป็นคดีอาญาคดีหนึ่ง ซึ่งต้องให้โอกาสคู่ความทุกฝ่ายได้ต่อสู้คดีเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งนี้ การให้โอกาสดังกล่าวยังเป็นหลักการสำคัญสำหรับการทำงานขององค์กรตุลาการตามหลักนิติธรรม ดังนั้น สำหรับคดีนี้ ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่อศาลในวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๔ และศาลไต่สวนพยานผู้ร้องฝ่ายเดียวแล้วมีคำสั่งในทันที เป็นกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ จึงมีเหตุให้รับคำคัดค้านของผู้คัดค้านไว้เพื่อพิจารณา

/ประเด็น...