ธรรมเนียมเมือง ต่อทรงพระดำเนินไปตามถนนเป็นนาน เจ้าเมืองกรมการจึงวิ่งกระหืดกระหอบมาทีละคนสองคน ใส่เสื้อมากลางทางบ้าง สรวมถุงเท้าทันบ้าง มาแต่ด้วยสะลิบเปอร์บ้าง วิ่งกันไขว่ไปทั้งเมืองดูก็สนุกดี ประทับเสวยที่เมืองเพ็ชรแล้ว เสด็จรถไฟพิเศษกลับมาแรมเมืองราชบุรี
วันที่ ๑๘ กรกฎาคม วันนี้ประจวบเป็นวันกำหนดบวชนาคบุตรพระแสนท้องฟ้า เวลาเช้าเสด็จประพาศตลาดแล้วเลยเสด็จไปทอดพระเนตรแห่บวชนาคที่วัดสัตนารถ การแห่นี้ก็แห่อย่างนาคราษฎร มีกลองยาวเถิดเทิงตามแบบที่เคยเห็นกัน ถ้าจะว่าก็ไม่น่าสนุก แต่บังเอินในเวลาเถิดเทิงตีอยู่ในลานวัด มีอ้ายบ้าคน ๑ ซึ่งพระเลี้ยงไว้ในใต้ถุนกฏิออกสนุกขึ้นมาอย่างไร กรากออกมาช่วยรำใครจะห้ามก็ไม่ฟัง เจ้าพนักงานจะไปไล่ ก็มีรับสั่งว่าช่างมันเถิด อ้ายบ้ารำไปรำมาประเดี๋ยวแลบลิ้นหลอกแล้วก็เดินออกไปเสียจากวัด ใครจะไปเรียกให้มารำอิกก็ไม่รำ
เวลาบ่ายวันนี้ทรงเรือมาด ๔ แจว เรือไฟเล็กลากล่องน้ำไปประพาศในแม่น้ำอ้อม เรือลำเดียวอยู่ข้างจะยัดเยียด จึงมีพระราชประสงค์จะหาซื้อเรือ ๔ แจวสำหรับตามเรือมาดพระที่นั่งสักลำหนึ่ง ช่วยกันเสาะหาไปตามทางไปเห็นที่บ้านแห่ง ๑ จึงแวะเข้าไปถามซื้อ ได้ความว่าเป็นเรือของกำนันเหม็น แต่เป็นเรือชำรุดหาได้ซื้อไม่ ที่เรียกว่ากำนันเหม็นนั้น ที่จริงแกจะชื่อไรก็ไม่ทราบ แต่บ้านเรือนของแกเหม็นเต็มที จึงสมมตกันว่าแกควรจะชื่อเหม็น ข้อนี้ฉันเห็นเป็นคติควรระวัง