หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/227

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
212

บ้ากัดไห้ฉันดู ฉันได้เคยเห็นแล้วดังว่ามา และตัวหมอมาโนส์เองก็ได้เคยไปสึกสาไนปาสเตอร์สถานที่เมืองปารีส รู้วิธีทำสิรัมไม่ต้องหาไครมาไหม่ คิดดูการที่จะตั้งสถานปาสเตอร์ไนกรุงเทพฯ มีเพียงหาที่ตั้งหย่างหนึ่ง หาเครื่องไช้หย่างหนึ่ง ส่วนคนที่เปนลูกมือทำการ ก็อาดจะไช้พวกทำพันธุ์หนองปลูกฝีดาดได้ ด้วยรวมการทำสิรัมทั้งสองหย่างเข้าด้วยกัน ไม่ต้องเพิ่มเติมผู้คนขึ้นเท่าไดนัก ฉันจึงกราบบังคมทูนขอพระบรมราชานุญาต แล้วประกาสบอกบุญเรี่ยไรเงินทุนที่จะตั้งสถานปาสเตอร์ที่ไนกรุงเทพฯ ก็มีผู้สรัทธาช่วยกันมากทั้งไทยและพวกชาวต่างประเทส ฉันได้อาสัยพระยามหาอำมาตย์ (เส็ง วิริยะสิริ) กับหมอมาโนส์เปนกำลังไนครั้งนั้น ไนไม่ช้าก็ได้เงินพอแก่การ จึงตั้งปาสเตอร์สถานขึ้นที่ตึกของกะทรวงมหาดไทยที่ริมโรงเลี้ยงเด็ก และย้ายสถานทำพันธุ์หนองปลูกฝีดาด นะ พระปถมเจดีย์เข้ารวมกัน เมื่อจัดการเตรียมพร้อมแล้ว ได้เชินสเด็ดพระบาทสมเด็ดพระมงกุดเกล้าเจ้าหยู่หัว สเด็ดไปซงทำพิธีเปิดสถานปาสเตอร์ (เวลานั้นเรียกว่า ปัสตุรสภา) เมื่อวันที่ 26 เมสายน พ.ส. 2456 ต่อมาหมอมาโนส์เกิดอาการป่วยเจ็บต้องลาออก แต่ก็ได้หมอโรแบต์ฝรั่งเสสมาแทน ซงคุนวุทธิและมีไจรักงานเช่นเดียวกับหมอมาโนส์ ก็อาดรักสาโรคพิสหมาบ้าสำเหร็ดประโยชน์ได้ไนเมืองไทยแต่นั้นมา และสถานปาสเตอร์นั้น ต่อมาพายหลังโอนไปขึ้นหยู่ไนสภากาชาด หมอโรแบต์ก็ย้ายตามไปทำการเปนประโยชน์ยิ่งขึ้นโดยลำดับมาจนขยายไหญ่โต เปนสถานเสาวภาหยู่บัดนี้