หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/251

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
236

หยู่ไนแหลมมลายูเปนอันมากมาแต่ก่อนแล้ว ที่มาได้ผลประโยชน์จนมีกำลังเลยตั้งตัวเปนหลักแหล่งก็มี ไนสมัยนั้น จีนที่มาเที่ยวหากินไนเมืองไทยและมืองชวามลายูมาแต่ผู้ชาย จีนที่มาตั้งตัวหยู่เปนหลักแหล่งมาได้หยิงชาวเมืองเปนเมีย มีลูกเกิดด้วยสมพงส์เช่นนั้น มลายูเรียกผู้ชายว่า "บาบ๋า" เรียกผู้หยิงว่า "ยอหยา" ทางเมืองชวามลายูจีนผู้เปนพ่อไม่พอไจจะไห้ลูกถือสาสนาอิสลามตามแม่ จึงฝึกหัดอบรมไห้ลูกทั้งชายหยิงเปนจีนสืบตระกูลต่อมาทุกชั่ว เพราะฉะนั้น จีนไนเมืองชวามลายูจึงต่างกันเปน 2 หย่าง คือ "จีนนอก" ที่มาจากเมืองจีนหย่างหนึ่ง "จีนบาบ๋า" ที่เกิดขึ้นไนท้องที่หย่างหนึ่ง มีหยู่เสมอ ผิดกันกับเมืองไทยเพราะเหตุที่ไทยถือพระพุทธสาสนาร่วมกับจีน ลูกจีนที่เกิดไนเมืองไทย ถ้าเปนผู้ชายคงเปนจีนตามหย่างพ่อหยู่เพียงชั่วหนึ่งหรือสองชั่วก็กลายเปนไทย แต่ลูกผู้หยิงเปนไทยไปตามแม่ตั้งแต่ชั่วแรก ไนเมืองไทยจึงมีแต่จีนนอกกับไทยที่เปนเชื้อจีน หามีจีนบาบ๋าเปนจีนประจำหยู่พวกหนึ่งต่างหากไม่

ไนสมัยเมื่ออังกริดแรกตั้งสิงคโปร์นั้น พวกจีนก็เริ่มตั้งอั้งยี่ คือ สมาคมลับที่เรียกว่า "เทียน ตี้ หวย" หรือ "ซาฮะ" ขึ้นไนเมืองมลายูบ้างแล้ว อังกริดรู้หยู่ว่า วัตถุที่ประสงค์ของพวกอั้งยี่จะกำจัดราชวงส์ไต้เชงอันเปนการไนเมืองจีน ไม่เห็นว่า มีมูลอันไดจะมาตั้งอั้งยี่ไนเมืองต่างประเทส สืบถามได้ความว่า พวกจีนมาตั้งอั้งยี่ไนเมืองมลายูไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องกำจัดราชวงส์ไต้เชง เปนแต่เอาแบบแผนกะบวนสมาคม