หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/259

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
244

ปราบปรามด้วยกำลัง แต่เมื่อเจ้าพระยาภานุวงส์ฯ ออกไปถึง หัวหน้าอั้งยี่ทั้งสองพวกอ่อนน้อมโดยดี เจ้าพระยาภานุวงส์ฯ ว่ากล่าวระงับเหตุวิวาทเรียบร้อยแล้ว พาตัวพวกหัวหน้าอั้งยี่ทั้งสองกงสีรวม 9 คนเข้ามาสารภาพรับผิดไนกรุงเทพฯ จึงโปรดไห้ถือน้ำกะทำสัจสาบานว่า จะไม่คิดร้ายต่อแผ่นดิน แล้วปล่อยตัวกลับไปทำมาหากินหย่างเดิม

การระงับอั้งยี่วิวาทกันที่เมืองพูเก็ตครั้งนั้นเปนเหตุที่ไทยจะเอาวิธี "เลี้ยงอั้งยี่" หย่างที่อังกริดจัดตามเมืองไนแหลมมลายูมาไช้ที่เมืองพูเก็ตก่อน แล้วเลยเข้ามาไช้ไนกรุงเทพฯ เมื่อภายหลัง แต่อนุโลมไห้เข้ากับประเพนีไทยมิไห้ขัดกัน เปนต้นว่า ที่เมืองพูเก็ตนั้นเลือกจีนที่มีพัคพวกนับถือมากตั้งเปน "หัวหน้าต้นแซ่" สำหรับนำกิจทุขสุขของพวกตนเสนอต่อรัถบาลและควบคุมว่ากล่าวคนของตนตามประสงค์ของรัถบาลคล้าย ๆ กับกัมการจีน ที่เปนคนมีหลักถานมั่นคงถึงไห้มีบันดาสักดิ์เปนขุนเปนหลวงก็มี แต่พวกหัวหน้าต้นแซ่นั้นก็เปนอั้งยี่พวกงี่เฮงหรือปูนเถ้าก๋งทุกคน การที่จัดขึ้นเปนแต่หย่างควบคุมอั้งยี่และไห้มีพวกหัวหน้าต้นแซ่สำหรับรัถบาลไช้ไปว่ากล่าวพวกอั้งยี่และคอยห้ามปรามมิไห้อั้งยี่ต่างพวกวิวาทกัน แต่ยังยอมไห้พวกจีนตั้งอั้งยี่ได้ตามไจไม่ห้ามปราม

พระบาทสมเด็ดพระจุลจอมเกล้าเจ้าหยู่หัวเสวยราชย์เมื่อเดือน