หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/263

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
248

เหล่านั้นมาเปนคนรับไช้สอยของท่าน ไห้ตรวจตราว่ากล่าวมิไห้พวกอั้งยี่กำเริบ ก็สำเหร็ดประโยชน์ได้สมประสงค์ พวกอั้งยี่ก็เรียบร้อย เพราะไช้วิธี "เลี้ยงอั้งยี่" มาตลอดเวลาสมเด็ดเจ้าพระยาฯ มีอำนาดไนราชการแผ่นดิน

ถึงปีชวด พ.ส. 2419 เปนปีที่ 9 ไนรัชกาลที่ 5 เกิดลำบากด้วยพวกจีนอั้งยี่ที่เปนกัมกรที่ทำเหมืองแร่ดีบุกที่เมืองระนองและเมืองพูเก็ตกำเริบคล้ายกับเปนกบด ต้องปราบปรามเปนการไหย่โต แต่ว่าพวกอั้งยี่ทางหัวเมืองไนแหลมมลายูเปนสาขาของพวกอั้งยี่กงสี "งี่หิน" แล "กงสีปูนเถ้าก๋ง" ไนแดนอังกริดมาตั้งขึ้นไนเมืองไทย ไม่ติดต่อกับพวกอั้งยี่ไนกรุงเทพฯ ดังกล่าวมาไนเรื่องปราบอั้งยี่ที่เมืองพูเก็ตเมื่อปีมะโรง พ.ส. 2411 นั้นแล้ว แต่ครั้งนั้นมา การทำเหมืองแร่ดีบุกที่เมืองระนองกับเมืองพูเก็ตจเรินขึ้น มีพวกจีนกัมกรเข้ามารับจ้างขุดขนดีบุกมากขึ้นเปนลำดับมา จนที่เมืองระนองมีจำนวนจีนกัมกรกว่า 3,000 คน และที่เมืองพูเก็ตก็มีจำนวนจีนกัมกรหลายหมื่น มากกว่าจำนวนราสดรไทยที่หยู่ไนตัวเมืองทั้งสองแห่ง ตามบ้านนอกพวกจีนกัมกรไปรวมกันรับจ้างขุดแร่หยู่ที่ไหน ทั้งพวกงี่หินและพวกปูนเถ้าก๋งต่างก็ไปตั้งกงสีอั้งยี่พวกของตนขึ้นที่นั่น มีนายรองปกครองขึ้นต่อผู้ที่รัถบาลตั้งเปนหัวหน้าต้นแซ่ซึ่งเปนผู้มีถิ่นถานหยู่ไนเมือง จึงมีกงสีอั้งยี่หยู่