หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/264

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
249

ตามเหมืองแร่แทบทุกแห่ง พวกหัวหน้าต้นแซ่ก็ช่วยรัถบาลรักสาความสงบเรียบร้อยได้ตลอดมา แต่เมื่อปีชวด พ.ส. 2419 นั้น ผเอินดีบุกตกราคา พวกนายเหมืองขายดีบุกได้เงินไม่พอไห้ค่าจ้างกัมกร จึงเกิดเหตุขึ้นที่เมืองระนองก่อน

ปรากตว่า เมื่อเดือน 3 แรม 14 ค่ำ ถึงตรุสจีน พวกกัมกรที่เปนอั้งยี่ปูนเถ้าก๋งพวกหนึ่งไปทวงเงินต่อนายเหมืองขอไห้ชำระหนี้สินไห้สิ้นเชิงตามประเพนีจีน นายเหมืองไม่มีเงินพอจะไห้ ขอผ่อนผัด พวกกัมกรจะเอาไห้จงได้ ก็เกิดทุ่มเถียง จนเลยวิวาทกันขึ้น พวกกัมกรค่าพวกนายเหมืองตาย ชรอยผู้ตายจะเปนตัวนายคนหนึ่ง พวกกัมกรจึงตกไจเกรงว่าจะถูกจับเอาไปลงโทส ก็พากันถือเครื่องสาตราวุธหนีออกจากเมืองระนอง หมายว่า จะเดินบกข้ามพูเขาบันทัดไปหาที่ซ่อนตัวหยู่ที่เหมืองแร่ไนแขวงเมืองหลังสวน เมื่อไปถึงด่าน พวกชาวด่านเห็นกิริยาอาการผิดปรกติ สงสัยว่า จะเปนโจรผู้ร้าย จะเอาตัวเข้ามาไห้ไต่สวนที่เมือง ก็เกิดวิวาทกันขึ้น คราวนี้ ถึงยิงกันตายทั้งสองข้าง พวกชาวด่านจับจีนได้ 8 คน คุมตัวเข้ามายังเมืองระนอง ถึงกลางทาง พวกจีนกัมกรเปนอันมากพากันมากลุ้มรุมแทงฟันพวกชาวด่านชิงเอาพวกจีนที่ถูกจีนไปได้หมด แล้วพวกจีนกัมกรก็เลยเปนกบด รวบรวมกันประมาน 500–600 คนออกจากเหมืองแร่เข้ามาเที่ยวไล่ค่าคนและเผาบ้านเรือนไนระนอง พระยาระนองไม่มีกำลังพอจะปราบปราม ก็ได้แต่รักสาบริเวนสาลากลางอันเปนสำนักรัถบาลไว้ พวกจีน

32