หน้า:ปก ให้ใช้วันอย่างใหม่ (๑๒๕๐).pdf/6

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
เล่ม ๕
๔๕๖
ราชกิจจานุเบกษา

ในการกำหนดพระราชพิธีประจำเดือนต่าง ๆ ก็ดี แลใช้สังเกตเปนเปนวันพระหยุดทำการก็ดี ให้คงใช้ตามเดิมนั้น

ข้อถ้าจะใคร่รู้ว่า ปีใดเปนปีอธิกสุร์ทิน ให้ตั้งรัตนโกสินทร์ศกลง เอา ๑๘๒ บวก เอา ๔ หาร ขาดปีใด ปีนั้นเปนปีอธิกสุร์ทิน เว้นไว้แต่บวกแล้วเลขครบ ๑๐๐ ก็ดี ๒๐๐ ก็ดี ๓๐๐ ก็ดี อย่าให้เปนอธิกสุร์ทินในปีนั้น ต่อเมื่อครบ ๔๐๐ จึ่งคงเปนไปตามที่ว่ามาทุก ๔๐๐ ปีเสมอไป

ข้อเงินภาษีอากรทั้งปวงนั้น ให้ส่งตามเดือนตามปีที่ว่ามานี้ เงินเดือนเงินปีในราชการทั้งปวง ก็ให้จ่ายตามเดือนตามปีนี้เหมือนกัน

ประกาศมาแต่ณวัน ๕ เดือน ๔ แรม ๑๒ ค่ำ ปีชวด สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๕๐ เปนวันที่ ๗๔๔๓ ในรัชกาลประจุบันนี้

กงสุลเยเนอราลเดนมารคเฝ้า

วัน ๔ เดือน ๔ แรม ๑๑ ค่ำ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาทเบื้องบุรพทิศ

เจ้าพนักงานกรมวัง กรมท่า นำซีเอซเลกกี กงซุลเยเนอราลเดนมารค เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท

พระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสปฏิสัณฐารโดยสมควรแล้ว กงซุลเยเนอราลเดนมารคถวายคำนับกลับออกมา พระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้น

ข้าราชการถวายบังคมลา

ณวัน ๒ เดือน ๔ แรม ๙ ค่ำ ปีชวด สัมฤทธิศก พระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกขุนนาง

พระยาศรีสิงหเทพนำนายน้อยพรหมศาล นายหนานพรหมเทพ เมืองน่าน ถวายบังคมลากลับไปบ้านเมือง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชทานผ้าพรรณตามธรรมเนียม


ข่าวตาย

พระครูพุทธพยากรณ์ เจ้าอาวาศวัดอัปศรสวรรค์ (มั่น) เปนบุตรนายพุ่ม ชาวเมืองปราจิณบุรี ได้มาเข้าศึกษาพระปริยัตติธรรมต่อพระวชิรเกวี เจ้าอาวาศวัดอัปศรสวรรค์ แต่อายุได้ ๑๒ ปี ครั้นอายุคำรบที่จะอุปสมบท จึ่งได้อุปสมบทเปนภิกษุอยู่วัดนั้น ภายหลัง พระวชิรเกวีถึงแก่มรณภาพ พระปลัด (อ่อน) ได้เปนพระครูพุทธพยากรณ์ เจ้าอาวาศ จึ่งได้เปนพระสมุหอยู่วัดนั้น ต่อมา พระครูพุทธพยา