หน้า:ประกาศกระทรวงมหาดไทย (๒๔๔๐-๐๔-๐๗).pdf/2

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
น่า๗๔
เล่ม๑๔
ราชกิจจานุเบกษา


ไทรบุรีตามบรรดาการที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตนั้น

ต้นไม้เงินทองเมืองปลิศ เมืองสตูน ซึ่งข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลหัวเมืองฝ่ายทะเลตวันตกเคยบอกส่งเข้ามากรุงเทพฯ นั้น แต่นี้ไป เมื่อถึงกำหนด ให้เจ้าพระยาไทรบุรีบอกนำส่งเข้ามากรุงเทพฯ

ข้อราชการบ้านเมืองซึ่งผู้ว่าราชการเมืองปลิศ เมืองสตูน เคยมีใบบอกต่อข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลฝ่ายทะเลตวันตก เพื่อแจ้งข้อราชการฤๅหารือราชการก็ดี ฤๅเพื่อให้บอกเข้ามากรุงเทพฯ ก็ดี แต่นี้ไป ให้ผู้ว่าราชการเมืองปลิศ เมืองสตูน มีใบบอกไปยังเจ้าพระยาไทรบุรี เพื่อแจ้งข้อราชการฤๅหารือราชการ ฤๅเพื่อให้บอกเข้ามากรุงเทพฯ เหมือนเช่นนั้น แต่ในราชการบางอย่างซึ่งเปนแบบแผนเคยมีท้องตราจากกรุงเทพฯ ตรงไปตามหัวเมืองก็ดี ที่หัวเมืองเคยบอกตรงเข้ามากรุงเทพฯ ก็ดี ก็ให้คงเปนไมตามแบบแผนเดิมนั้น แต่ต้องแจ้งความให้เจ้าพระยาไทรบุรีทราบด้วย

แต่การที่ว่ามาในข้อนี้ไม่เกี่ยวข้องถึงฎีกาทูลเกล้าฯ ถวายร้องทุกข์ฤๅเพื่อจะกราบบังคมทูลพระกรุณาต่อใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาทโดยเฉพาะ การเช่นนี้ย่อมเปนราชประเพณีซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตไว้แก่ข้าทูลลอองธุลีพระบาทแลไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินทั่วไปมิได้เลือกหน้า ใครจะถวายก็ได้ ไม่ห้ามปราม

ผลประโยชน์ผู้ว่าราชการเมืองปลิศ 

เมืองสตูน เคยได้ในตำแหน่งเท่าใด ให้คงได้อย่างแต่ก่อน ส่วนผลประโยชน์ซึ่งผู้ว่าราชการเมืองเหล่านั้นได้เคยให้ประจำตำแหน่งศรีตวันกรมการเท่าใด ถ้าศรีตวันกรมการเหล่านั้นยังรับราชการบ้านเมืองตามสมควรแก่น่าที่ ก็ให้คงได้รับผลประโยชน์ไปอย่างเดิม แลเงินผลประโยชน์ เงินภาษีอากร ที่ได้ในเมืองปลิศ เมืองสตูน มากน้อยเท่าใด เงินเมืองใด ให้จัดจ่ายใช้ราชการทำนุบำรุงในเมืองนั้น แลให้มีบาญชีทั้งรายรับแลรายจ่ายแยกออกเปนเมือง ๆ อย่าให้ปะปนกัน

ตำแหน่งแลเกียรติยศบันดาศักดิ์ผู้ว่าราชการเมืองปลิศ เมืองสตูน แลศรีตวันกรมการเมืองทั้ง ๒ เมืองนั้น เคยมีมาประการใด ก็ให้คงมีอยู่อย่างนั้น การที่จะเลือกสรรตั้งแต่งศรีตวันกรมการผู้ใหญ่ในเมืองปลิศแลเมืองสตูนนั้น ตำแหน่งใดว่างลง ให้เจ้าพระยาไทรบุรีปฤกษาหารือด้วยผู้ว่าราชการเมืองนั้นเลือกสรรผู้ซึ่งสมควร แล้วมีใบบอกเข้ามากราบบังคมทูล เมื่อทรงพระราชดำริห์เห็นขอบแล้ว ก็จะได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานสัญญาบัตรตามธรรมเนียม ส่วนตั้งแต่งกรมการผู้น้อยนั้น ให้ผู้ว่าราชการเมืองปลิศ เมืองสตูน หารือต่อเจ้าพระยาไทรบุรี เมื่อเจ้าพระยาไทรบุรีเห็นชอบด้วยแล้ว ก็ตั้งได้

๑๐เจ้าพระยาไทรบุรีต้องมีบอกรายงานการที่ได้จัดแลเหตุการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเขตรแขวงเมืองปลิศแลเมืองสตูนเข้ามากราบบังคมทูลเนือง ๆ แลบรรดาการที่เจ้าพระยาไทรบุรีจะจัดการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใน