หน้า:ประกาศดีอี เรื่อง ระงับการทำให้แพร่หลาย และนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบ 2565.pdf/10

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

เล่ม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๕๔ ง

๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๕
หน้า ๖๖
ราชกิจจานุเบกษา

ข้อ ๑๐ การอุทธรณ์ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่ง และไม่เป็นเหตุให้ผู้ได้รับคำสั่งยกเป็นข้ออ้างหรือปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามหมวดนี้

ข้อ ๑๑ ผู้ให้บริการหรือสื่อสังคมออนไลน์ และผู้ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ออกตามประกาศนี้ อาจอุทธรณ์คำสั่งโดยยื่นต่อปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือผู้ที่ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมอบหมาย ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง หรือนับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงคำสั่งดังกล่าว แล้วแต่กรณี เพื่อขอให้เพิกถอน แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

คำอุทธรณ์ต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรลงลายมือชื่อผู้อุทธรณ์ โดยระบุข้อโต้แย้งและข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่อ้างอิงประกอบด้วย

ให้ผู้รับคำอุทธรณ์ออกใบรับคำอุทธรณ์ลงวัน เดือน ปี ที่รับและลายมือชื่อผู้รับให้แก่ผู้อุทธรณ์

ข้อ ๑๒ ให้ผู้พิจารณาอุทธรณ์พิจารณาคำอุทธรณ์และแจ้งผู้อุทธรณ์โดยไม่ชักช้า แต่ต้องไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ ในกรณีที่เห็นด้วยกับคำอุทธรณ์ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนก็ให้ดำเนินการมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งเดิมหรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งนั้นตามความเห็นของตน ภายในกำหนดเวลาดังกล่าวด้วย

ในกรณีที่ไม่เห็นด้วย ให้มีคำสั่งยกคำอุทธรณ์ และแจ้งผู้อุทธรณ์ทราบ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีคำสั่ง

ถ้ามีเหตุจำเป็นไม่อาจพิจารณาคำอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้ผู้พิจารณาอุทธรณ์มีหนังสือแจ้งให้ผู้อุทธรณ์ทราบก่อนครบกำหนดเวลาดังกล่าว ในการนี้ ให้ขยายระยะเวลาพิจารณาอุทธรณ์ออกไปได้ไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที่ครบกำหนดเวลาดังกล่าว

ข้อ ๑๓ ในการพิจารณาอุทธรณ์ ให้ผู้พิจารณาอุทธรณ์พิจารณาทบทวนคำสั่งได้ไม่ว่าจะเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย หรือความเหมาะสมของการทำคำสั่ง และอาจมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งเดิมหรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งนั้นไปในทางใด หรือมีข้อกำหนดเป็นเงื่อนไขอย่างไรก็ได้

ข้อ ๑๔ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ออกคำสั่ง หรือปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมอาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิกถอนคำสั่งในเวลาใด ๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะพ้นขั้นตอนการกำหนดให้อุทธรณ์ตามประกาศนี้ หรือไม่ โดยต้องทำเป็นหนังสือเพิกถอนคำสั่งเดิมหรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งส่งไปยังบุคคลที่ได้รับคำสั่งนั้น และด้วยเหตุ ดังต่อไปนี้

(๑) คำสั่งที่มีข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือผิดหลงเล็กน้อย

(๒) มีพยานหลักฐานใหม่ อันอาจทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังเป็นยุติแล้วนั้นเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ

(๓) ถ้าคำสั่งได้ออกโดยอาศัยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายใดและต่อมาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายนั้นเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญในทางที่จะเป็นประโยชน์แก่คู่กรณี