หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/65

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๓๐

เปนบุตรเจ้าขุนทึงนั้นแล เจ้าขุนทึงท่านก็มีความยินดีแล้ว ก็ให้อยู่กับตนในเวียงเชียงเรืองที่นั้นแล ครั้นเจ้าขุนทึงสิ้น แก่กรรมไปแล้ว เจ้าจอมผาเรืองท่านก็ได้เสวยราชสมบัติแทนลุงแห่งตนในปีเมิงเม็ด ศักราช ๔๙๓ ตัวนั้นแล

เจ้าจอมผาเรืองเมื่อท่านได้เสวยราชสมบัติแทนลุงแห่งตนนั้นอายุท่านได้ ๔๓ ปี ท่านมีราชบุตรสองตน ตนพี่ชื่อเจ้าลาวอ้ายเจือง ตนน้องชื่อเจ้าลาวขุนเจืองแล ดังเจ้าลาวชินตนพี่เจ้าจอมผาเรืองอันอยู่เสวยเมืองเงินยังเชียงแสนนั้น มีบุตรหญิงสองคน ผู้พี่ชื่อว่านางอานแฟงจันทน์ผง ผู้น้องชื่อว่านางโอคาแพงเมือง ว่าฉันนั้นแล นางทั้งสองครั้น จำเริญขึ้นใหญ่มา ก็มีรูปโฉมโนมพรรณอันงาม เปรียบเสมอดังนางทิพนั้นแล เจ้าจอมผาเรืองท่านก็ให้เจ้าลาวอ้าย เจืองตนเปนบุตรที่ ๑ อยู่กับด้วยตนในเวียงเชียงเรืองที่นั้นเเล้ว ก็ให้เจ้าลาวขุนเจืองตนเปนบุตรถ้วนสองไปกินเมืองฝางนั้นแล ภายหลังแต่นั้นมาเจ้าจอมผาเรืองท่านก็ใช้ไปขอนางทั้งสองพี่น้องเพื่อจะมาอุสาภิเศกให้เจ้าลาวอ้ายเจืองแลเจ้าขุนเจือง สองพี่น้องอันเปนบุตรแห่งตนนั้นแล เมื่อนั้นพระยาลาวชินจึงกล่าวว่าดีจริงแล แต่ทว่าบัดนี้ข้ายังน้อยไม่รู้อะไร นางผู้พี่มีอายุได้ ๑๒ ปี นางผู้น้องมีอายุ ๑๐ ปี ก็ยังไม่ฉลาดรู้แห่งการหญิงดาย ภายน่าเอาแต่บุญ แห่งชาวเจ้าเปนเถิด ว่าดังนั้นแล้ว คนใช้ก็กลับเมือทูลเจ้าจอมผาเรือง บอกเหตุการณ์ตามพระยาลาวชินตนพี่หาก กล่าวนั้นทุกประการนั้นแล เจ้าจอมผาเรืองครั้นได้ทราบ รู้ว่าพี่อ้ายตนยอมอนุญาตให้บุตรหญิงทั้งสองมาเปนบุต รสใภ้แห่งตนภายน่า