หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/68

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๓๓

ซ้ายข้างขวานั้นแล พระยาลาวชินก็อุสาราชาภิเศกให้เสวยเมืองเงินยังเชียงแสนแล้ว ก็อุสาราชาภิเศกชื่อขึ้นเรียกว่า เจ้าพระยาเจืองฟ้าธรรมิกราชาขุนเจืองว่าดังนั้นแล ส่วนว่าท้าวพระยาทั้งหลายนานาประเทศทั้งปวงมีความกลัว ด้วย เดชานุภาพแห่งท่านแล้ว ก็พากันน้อมเข้ามาสู่สมภารท่านสิ้นนั้นแล้ว ก็เปลี่ยนกันอุสาราชาภิเศกแล้วก็เรียกชื่อขึ้นว่าเจ้าพระ ยาเจืองฟ้าธรรมิกราชานั้นแล แล้วก็ปลูกหออุทุมพรไม้มะเดื่อขึ้นสูงได้ร้อยศอกนั้นแล ฯ

เจ้าพระยาเจืองฟ้าธรรมิกราช อายุได้ ๒๗ ปี เสวยเมืองแทนพี่แทนลุงแห่งตน ในปีเปิกสี ศักราช ๕๑๕ ตัว ท่านได้เสวยราชสมบัติแล้ว ก็ปรากฎด้วยฤทธิเดชานุภาพทั่วมหานานาประเทศทั้งปวง ท้าวพระยามหากระษัตริย์ทั้งหลายก็เข้ามาพร้อมน้อมสู่สมภาร ถวายเครื่องราชบรรณาการทั้งหลายมากนักนั้นแล ฯ

ถัดนั้นพระยาลุ่มฟ้าเก้าพิมาน ตนเปนเจ้าเมืองวิเทหราชกับพระยาจุลณีสองตนพี่น้อง ก็เอารี้พลมาเปนอันมาก ว่าจะพากันมาปราบประจญเอานางทั้งสองพี่น้อง ครั้นมาถึงกลางทางก็ได้รู้ข่าวสารว่าพระยาเจืองฟ้าธรรมิกราชาปราบได้นางแล้วฉนี้ เมื่อนั้นพระยาลุ่มฟ้าเก้าพิมาน แลพระจุลณี ก็มีความเข็ดขามเกรงอำนาจแล้ว ก็พลันพร้อมกัน แต่งยังเครื่องราชบรรณาการแต่ละอย่างแลร้อยแปดทั้งปวงคือหอยสังข์ปรกติแลอ่างเงินสองลูก มาถวายแก่เจ้าพระยาเจืองฟ้าธรรมิกราชนั้นแล ทั้งหออุทุมพรก็สร้างเติมอันเก่าขึ้นสูงได้ร้อยยี่สิบ