หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๔) - ๒๔๗๒ a.pdf/25

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๕

พร้อมกันจับแพ่กิจาแม่ทัพฆ่าเสีย แล้วกลับทัพมาณเมืองมัตมะ ปะกันหวุ่นเจ้าเมืองมัตมะ อะคุงหวุ่น รู้ว่า พระยาเจ่ง ตละเซ่ง ฆ่าแพ่กิจาเสีย ยกทัพกลับมาเมืองมัตมะ ปะกันหวุ่น อะคุงหวุ่น ลงเรือหนีไปเมืองย่างกุ้ง พระยาเจ่ง ตละเซ่ง นายทัพนายกองสมิงรามัญ ยกติดขึ้นไปตีได้ค่ายตักกะเลริมเมืองย่างกุ้ง พอกองทัพหน้าอะแซหวุ่นกี้ยกลงมาแต่เมืองอังวะ ได้รบกันกับกองทัพรามัญที่เมืองย่างกุ้ง พระยาเจ่ง ตละเซ่ง นายทัพนายกองสมิงรามัญ แตกหนีลงมาเมืองมัตมะ พาครอบครัวอพยพเข้ามากรุงทวาราวดีศรีอยุธยา กองทัพพะม่ายกตามมาจับได้แต่ตละเกิ้งทั้งบุตรภรรยาณแขวงเมืองมัตมะส่งขึ้นไปถวาย ครั้งนั้น มองระกับเสนาบดีลงมายกฉัตรอยู่ณเมืองย่างกุ้ง มองระจึงให้ถามตละเกิ้งว่า ตัวคิดการประทุษฐร้ายในครั้งนี้ ใครรู้เห็นเป็นใจด้วยตัวบ้าง ตละเกิ้งว่า พระยาหงสาวดี พระยาอุปราชาผู้น้อง มีหนังสือให้คนถือมาถึงข้าพเจ้ากับพระยาเจ่งให้ชักชวนกันแต่บรรดาสมิงรามัญทั้งปวงจับเอาบรรดาพะม่านายไพร่ซึ่งอยู่ในเมืองมัตมะฆ่าเสีย แล้วให้ยกกองทัพตีเอาเมืองย่างกุ้งขึ้นไปจนถึงเมืองอังวะ ถามสอบพระยาหงสาวดี พระยาอุปราชา รับเป็นสัตย์ มองระจึงสั่งให้เอาพระยาหงสาวดี พระยาอุปราชา กับทั้งตละเกิ้ง ไปประหารชีวิตเสีย ๚

ครั้นศักราชได้ ๑๑๓๖ ปี อะแซหวุ่นกี้ยกกองทัพเข้ามาตีกรุง กองทัพหน้าก็ยกเข้ามาถึงเมืองราชบุรี กองทัพไทยจึงล้อมไว้ อะแซหวุ่นกี้จึงบอกขึ้นไปถึงมองระเจ้าอังวะ ๆ จึงให้อะคุงหวุ่นมงโยะ