หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๔) - ๒๔๗๒ a.pdf/45

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๕

ไปปักที่ตำบลนั้นเป็นสวนหลวง โบราณเคยเรียกต้นไม้ม่วง ไม้มะขาม แต่ต้นละสลึงเงิน สองสลึงเงิน ทุกวันนี้ เรียกเอาต้นละสลึงทอง สองสลึงทอง เจ้าลูกเจ้าหลานเจ้าอังวะว่า อุเยนมูเรียกส่วยต้นผลไม้มากกว่าพิกัดเก่า เก็บเอาเรือกสวนของราษฎรเป็นหลวงเสียมากมาย ราษฎรทั้งหลายเดือดร้อนร้างที่หนีถิ่นไป ภูมิลำเนาเปล่าว่างร้างเซเสียเป็นอันมาก เจ้าอังวะว่า มันทำเงินทำทองมาใส่คลังทั้งนี้จะไปไหน ก็จะได้แก่ลูกหลานทั้งสิ้น ถิ่นฐานลำเนาซึ่งเปล่าว่างร้างนั้นก็ดี จะได้เป็นที่ช้างม้าอาศัยอีก ๚

 ณศักราช ๑๑๗๐ ปีมะโรงนักษัตร สัมฤทธิศกนั้น ได้ยินว่า เจ้าอังวะสั่งให้เก็บเด็กชายลูกทนายเลือกเอาแต่อายุ ๑๑ ปีขึ้นไปได้ประมาณ ๑๕๐๐ เศษ ลางคนรักลูก เอาทรัพย์ไปช่วยคนทั้งครัว เอาแต่ตัวลูกส่งไปแทนบุตรของตัว บิดามารดาทั้งครัวนั้นปล่อยเสียเป็นไทย ครั้นเจ้าอังวะได้เด็กพร้อมแล้ว ให้พิจารณาไล่เลียงซักถามได้ความว่า เป็นลูกหมู่แท้บ้าง ลางคนก็ช่วยมาแทนตัว คนซึ่งแทนตัวลูกหมู่นั้นก็เอาไว้ว่า ได้ด้วยบุญของตน ให้สืบไล่เอาลูกหมู่เดิมนั้นจงได้ ผู้ซึ่งเสียทรัพย์ช่วยไถ่คนให้ไปแทนนั้น ให้อันตรธานทรัพย์ศูนย์เสียเปล่า ๚

 ข้อหนึ่ง เจ้าอังวะคบพวกเพื่อนเด็กเอาเพศเป็นทารก ชวนกันเที่ยวฉกชิงทิ้งขว้างเย่าเรือนขุนนาง ชิงของกลางตลาดได้แล้วก็เดิรกินไป ข้อนี้จะแก้เหตุอันใดไม่แจ้ง ๚

 ณศักราช ๑๑๗๐ ปีมะโรงนักษัตร สัมฤทธิศก อินแซะถึงแก่ความตาย ลูกชายได้เป็นที่แทนณเมืองใหม่นั้น เจ้าอังวะให้จักคุสะแข่งผู้น้องอินแซะอยู่รักษา มีอาชญาสิทธิเหมือนอินแซะผู้ตาย ๚