หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑) - ๒๔๕๗.pdf/152

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๓๑
แผ่นดินสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช

สมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าตรัสรู้ว่า พระเจ้าลูกเธอพระศรีเสาวเสด็จไปบัญชาการเศิกทุกวันดังนั้น ก็มิไว้พระไทย ก็ให้เอาพระเจ้าลูกเธอพระศรีเสาวนั้นไปฆ่าเสียณวัดพระราม.

 ครั้งนั้น การเศิกซึ่งจะรักษาพระนครนั้นก็คลายลง ครั้งเถิงศักราช ๙๓๑ มเสงศก (พ.ศ. ๒๑๑๒) ณวัน ๑๑ ค่ำ เพลารุ่งแล้วประมาณ ๓ นาฬิกา ก็เสียกรุงพระนครศรีอยุทธยาแก่พระเจ้าหงษา ครั้นเถิงวัน ๑๒ ค่ำ ทำการปราบดาภิเศกสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชเจ้าเสวยราชสมบัดดิกรุงพระนครศรีอยุทธยา อนึ่ง เมื่อพระเจ้าหงษาเสด็จกลับคืนไปเมืองหงษานั้น พระเจ้าหงษาเอาสมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าขึ้นไปด้วย.

 ศักราช ๙๓๒ มเมียศก (พ.ศ.๒๑๑๓) พญาลแวกยกพลมายังพระนครศรีอยุทธยา พญาลแวกยืนช้างตำบลสามพิหาร แลได้รบพุ่งกัน แลชาวเมืองพระนครยิงปืนออกไปต้องพญาจัมปาธิราชตายกับฅอช้าง ครั้งนั้น เศิกพญาลแวกเลิกทัพกลับคืนไป ในปีนั้น น้ำณกรุงพระนครศรีอยุทธยามาก.

 ศักราช ๙๓๓ มแมศก (พ.ศ. ๒๑๑๔) น้ำน้อย อนึ่ง สมเด็จพระนารายน์บพิตรเปนเจ้าเสด็จขึ้นไปเสวยราชสมบัดดิเมืองพิศณุโลก.

 ศักราช ๙๓๔ วอกศก (พ.ศ. ๒๑๑๕) น้ำน้อยนัก.

 ศักราช ๙๓๕ รกาศก (พ.ศ. ๒๑๑๖) น้ำน้อยเปนมัธยม.

 ศักราช ๙๓๖ จอศก (พ.ศ. ๒๑๑๗) น้ำมากนัก ครั้งนั้น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอทรงพระประชวรทรพิศม์.