หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑) - ๒๔๕๗.pdf/72

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๕๑
เรื่องพระมาลีเจดีย์

สำเร็จความปรารถนานั้นเถิด ข้าหลวงทั้งปวงกราบถวายบังคมนมัสการก็ลาออกจากแม่น้ำชุมเกรียว ก็ไปถึงเขาฝรั่งยางหิน ไปถึงตำบลเขาหลวง พอสิ้นแดนกรุงศรีอยุทธยา ไปถึงด่านทุ่งเขาหลวงสิ้นเขตรแดนนับได้ ๓๘ วัน ครั้นแล้วจึงตั้งสัจจาธิฐานอิกครั้งหนึ่ง ยกออกจากที่ขุนการเวกกับข้าหลวงทั้งปวง จึงตั้งนมัสการพระศรีรัตนไตรยแล้วก็ยกไปขาดระยะบ้าน ไม่มีผู้คนเดินเลย บ่ายหน้าต่อทิศอุดร เปนป่าใหญ่เดินไปมาไม่ต้องแดด เปนทุ่งอยู่กลางเปนป่าละเมาะ คนทั้งปวงสิ้นอาหาร กินแต่ผลไม้เปนอาหาร สิ้นหนทาง ๓๐ วัน จึงเข้าเมืองหงษาวดี มีด่านบ้านพราหมณ์รายไปบ้าง ขุนการเวกกับข้า หลวงทั้งปวงเดินต่อ ๆ กันไป สิ้นหนทางนั้น ๓๐ วัน จึงถึงเมือง หงษาวดีนั้น คิดเข้ากันสิ้นทาง ๒ เดือนกับ ๒๑ วัน จึงเข้าเมือง หงษาวดี ขุนการเวกกับพระยาศรีธรรมราชา ข้าหลวงทั้งปวงพากันเข้าไปในพระอาราม พบปะขาวรูปหนึ่ง ขุนการเวกจึงถามปะขาวว่าอารามนี้ท่านผู้ใดเปนใหญ่ ปะขาวบอกว่าพระสังฆราชา ขุนการเวกแลข้าหลวงทั้งปวง จึงเข้าไปนมัสการพระสังฆราชา ๆ จึงซักไซ้ไต่ถามว่าอุบาสกทั้งปวงนี้มาแต่สถานที่ใดฤๅ ขุนการเวกกราบทูลพระสังฆราชาว่าข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงนี้ เปนข้าทูลลอองสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวกรุงศรีอยุทธยา ๆ มีพระกมลหฤไทยเลื่อมไสศรัทธาในพระมาลีเจดีย์ยิ่งนัก จึงตรัสใช้ให้ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงนี้คุมเอาเครื่องสักการบูชาพอสมควร ขึ้นมานมัสการพระมาลีเจดีย์นั้น พระสังฆราชา ปราไสว่า อาตมภาพขออนุโมทนา ด้วยพระราชทรัพย์แห่งพระองค์