ของเที่ยง ความป่วยเจ็บอันเนื่องจากชราภาพก็เกิดเบียดเบียนยิ่งขึ้นจนมีอาการหนักลง ครั้นถึงวันจันทร์ที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๓ เวลา ๖ นาฬิกา พระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช (แย้ม สินศุข) เจ้ากรม ถึงแก่กรรมที่บ้านพระพิเศษสุรฤทธิ์นั้น มีอายุได้ ๗๓ ปี
วันที่ ๑๐ มกราคม มีการอาบน้ำศพ ได้รับพระราชทานน้ำหลวงและหีบทองทึบเปนเกียรติยศศพตามบรรดาศักดิ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เสด็จไปเปนประธานในการอาบน้ำศพนี้ ได้ตั้งหีบศพไว้ณบ้านพระพิเศษสุรฤทธิ, และได้มีการบำเพ็ญกุศลต่อมาตามวาระอันควร
บัดนี้ คุณหญิงเพียน ภาณุพันธุวงศ์วรเดช กับนายพันโท พระพิเศษสุรฤทธิ์ (หลง สินศุข) ผู้บุตร ทูลสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดชว่า มีความปรารถนาจะใคร่ทำการฌาปนกิจศพสามีและบิดา, มีการบำเพ็ญกุศลเริ่มงานที่บ้านพระพิเศษสุรฤทธิ แล้วยกหีบศพไปสู่เมรุริมบรมบรรพตวัดสระเกษ, บำเพ็ญกุศลพิเศษเสร็จแล้วพระราชทานเพลิง เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดชได้ทรงพระอนุญาตแล้วทรงรำพึงว่า, พระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช (แย้ม สินศุข) เปนข้าในกรมเก่าแก่มาช้านานถึง ๔๗ ปี ได้กระทำความดีต่อพระองค์เปนอเนกประการ มีคุณสมบัติหลายอย่าง ตั้งต้นแต่เปนผู้มีชาติตระกูลอันดี มีนิสัยความประพฤติดี, ตลอดถึงความดีซึ่งได้กระทำน่าที่ในตำแหน่งมาเปนลำดับ ดังได้กล่าวลเอียดไว้ข้างต้นแล้ว ในการฌาปนกิจศพเจ้ากรมในพระองค์ครั้งนี้ นอกจากที่จะทรงบำเพ็ญพระกุศล