หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๑) - ๒๔๖๔.pdf/28

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๖

อนึ่ง เจ้าฟ้าเมืองเชียงตุงเล่าเลี้ยงไว้เหมือนบุตร พระราชทานเครื่องยศศักดิ์ให้ ก็หาอยู่ในสัตย์ธรรมไม่ ละน้ำพิพัฒน์สัจจาเสีย ไปคบหากับพวกเมืองเชียงใหม่ เปนคนชั่ว หาดีไม่ แลเมืองยอง เมืองเชียงแขง นั้นเล่า เปนเชื้อวงศ์มาแต่ก่อน จึงตั้งให้เปนเจ้าฟ้า ประทานเครื่องยศศักดิ์ให้ ก็หาอยู่ในสัตย์ธรรมไม่ ประทุษฐร้าย ละน้ำพิพัฒน์สัจจาเสีย เปนคนชั่ว

เจ้าอังวะจึงว่า คนจำพวกนี้ที่จะกลับตั้งอยู่ในศีลในสัตย์เห็นไม่มี อุประมาเหมือนสุนักข์จิ้งจอกได้กินอาหารเดนพระยาราชสีห์ มีกำลังมาก เชื่อถืออวดตัวว่าเปนพระยาราชสีห์ ยกย่องถือทิษฐิมานะ แลธรรมดาสุนักข์จิ้งจอกหางคด จะดัดให้ตรงได้ (ก็แต่) เมื่อขณะใส่กระบอก ครั้นชักออกมาจากกระบอกแล้วก็กลับงอเข้า แลช้าง ๔ ช้างนั้น มหาราชาเจ้าเมืองกระแซ อุปราชาผู้น้อง นำบุตรสาวมาถวาย พระราชทานให้มหาราชาช้าง ๑ อุปราชาช้าง ๑ รวม ๒ ช้าง ล้มเสียช้าง ๑ ยังเหลืออยู่ช้าง ๑ ให้จัดเอาช้างหลวงในเมืองอังวะให้มาแทน ๓ ช้าง เข้ากันเปน ๔ ช้าง (ให้นำ) สิ่งของกับพระยาพิมพิสารแลหนังสือแผ่นทองเข้ามาส่งทางเมืองเมาะตะหมะ

แลเจ้าอังวะ (เจ้านายของ) เราทุกวันนี้ (ทรง) รักษาฝ่ายกุศลตั้งอยู่ในทศกรรมบถ ๑๐ ประการ มีช้างเผือกขาวบริสุทธิ์เหมือนพระยาฉันทันต์ กับนางช้างเผือก ๒ ช้าง แลเมืองเวสาลี เมืองมณีบุระกระแซ เมืองศรีจันท์ เมืองขันตีประเทศราช เมืองติงษาประเทศราช