หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๑) - ๒๔๖๔.pdf/31

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๙

เศษ หาโทษมิได้ ก็ฆ่าเสียแล้ว ยังเมียเจ้าหอน่าก็ยังไม่ได้เปนหอเปนเรือน[1] เปนอันร้อนไหม้ไม่มั่นเที่ยงสท้านหวั่นไหวอยู่เปนนิจ ข้าพเจ้าขอทำราชการแต่พอรอดชีวิตร กับอย่าให้เปนอันตรายแก่สมบัติบ้านเมืองไพร่พลเมืองไม่ให้เปนศึกเปนโจร ให้ได้อยู่สวัสดี ไพร่อยู่ค้าข้าอยู่ขายตามจารีตซึ่งมีมาแต่ก่อน ซึ่งได้หนีไปพึ่งกรุงศรีอยุธยาฝ่ายใต้ล่วงไปเสียแล้วนั้น เหตุว่ากลัวเจ้าตนเปนเจ้า จึงได้ไปพึ่ง เจ้าก็เล็งเห็นด้วยปัญญาทิพย์อยู่แล้ว ไพร่ไทยอันใด พม่ามอญก็ดี ไปตกอยู่ณกรุงศรีอยุธยานั้น เปนข้าเจ้าทั้งสิ้น อิก ๔ ปีภายน่า หอกดาบก็มิให้หัก ให้มารอดถึงสำนักพื้นตีนพระมหากระษัตริย์เจ้า

บัดนี้ข้าพเจ้าแต่งให้พระยาพิมพิสาร ท้าวอินทจักร คนที่มีชื่อทั้งปวง เปนทูตคุมเอาช้าง ๔ ช้าง กับสิ่งของดีมีหลายประการหลายสิ่งมากราบไหว้สา ก็เปนด้วยเดชะบุญเจ้าช้างเผือกตัวประเสริฐเกิดมีได้ทรงเปนเจ้าช้างเผือกแล้ว ก็ปราถนาสัพพัญญุตญาณองค์หนึ่งภายน่า จึงมีราชอาชาอันชอบแม่นแล้ว เดชะบุญตนตัวรุ่งเรืองแล้ว เขาทั้งหลายจึงมีน้ำใจชื่นชมยินดีมากราบไหว้สา ข้าพเจ้าก็จะปันลูกปันน้องปันมยุจาหมู่มาตยาอันชอบควรใช้สอยลงมารอดถึงพื้นตีนเปนข้าขอกินน้ำพระพิพัฒน์สัตยาต่อเจ้าแล้ว วรพุทธสาสนาก็จะรุ่งเรือง ข้าพเจ้าไพร่ไทยใหญ่น้อยสัตวโลกทั้งหลายจะได้อยู่เย็นเปนศุข เพราะบุญพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพเจ้าทั้งปวงมีเจตนามาฉนี้แล ๚ะ


  1. ที่ว่า เมียเจ้าหอน่า ตรงนี้ เห็นจะหมายความว่า เจ้ารจจา ซึ่งเปนน้องของพระเจ้าเชียงใหม่กาวิละ