หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๑) - ๒๔๖๔.pdf/38

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๖

กรเมือง จึงว่า ถ้าเจ้าเมืองแสนหวีมีใจ ก็ให้จัดม้าที่ดีมาสัก ๔ ม้าเถิดพระยาเชียงแสน ห้อม้าไหแสง จึงกลับไปบอกฟ้าแสนหวี ๆ ให้พระยาเชียงแสนเชียงเปียง ขุนหมื่นในแสนหวี ๓ ไพร่ ๕๐ คุมม้ากับผ้าจำพึง ๔ ผืน ผ้าไหมนุ่ง ๗ ผืน ผ้าขาวกาสา ๓ พับ กล่องลาย ๓๕ ใบมาถึงมหาขนานให้เอามาไหว้สาพระเจ้าเชียงใหม่ แล้วบอกว่าฟ้าแสนหวีจะต้องการช้าง ๒ ช้าง มหาขนาน พระยากรเมือง จึงจัดเอาช้างในกองทัพเปนช้างมหาขนานช้าง ๑ ช้างพระยาเหล็กช้าง ๑ ให้ข้าพเจ้ากับมาตสามท้าวอินทจักรจเรแก้ว รวม ๓ คน ไพร่ ๓๔ รวมเปน ๓๗ คน คุมช้างไปให้ฟ้าแสนหวี แล้วฝากจอกเงิน ๔ ใบ ให้ฟ้าแสนหวี ๓ ใบ ให้ปะทวยตอใบ ๑

ครั้น (ไปถึง) ท่ามอญฟากแม่น้ำคง (คือลำน้ำสาละวิน) ตวันตก พบกองทัพ ๒ ทัพ เมืองจองโปพม่าทัพ ๑ มังกลาโปเมืองแสนหวีทัพ ๑ คนประมาณ ๑๐๐๐ เศษ มังกลาโปแม่ทัพเมืองแสนหวีกับแสนหลวงชิงเปียงมาว่ากับข้าพเจ้าว่า จะไปบัดนี้ จะต้องฝ่ากองทัพพม่าไป[1] ครั้นจะบอกว่าถือราชสาสนมา ราชสาสนก็หามีไม่ จำจะใช้ให้ไปหาปะทวยตอซึ่งตั้งอยู่ณเมืองออก ให้ทำลานทองใส่ถุงปิดตราออกมาก่อน แล้ว


  1. ความตรงนี้ส่อให้เห็นว่า ในเวลาเมื่อเจ้าเมืองแสนหวีส่งบรรณาการมายังพระเจ้าเชียงใหม่แล้ว ทางโน้นไม่ช้าทัพพม่าก็มาถึงเมืองแสนหวี เกณฑ์พวกเมืองแสนหวีเข้าสมทบ จะยกลงมาขู่เหล่าเมืองที่ได้มาสามิภักดิ์ต่อไทย เจ้าเมืองแสนหวีร้อนใจ คงสั่งมังกลาโปแม่ทัพเมืองแสนหวีให้คิดลวงทั้งพม่าทั้งไทยเอาตัวรอด มังกลาโปจึงมาคบคิดกับพระยาพิมพิสาร ตรงนี้พระยาพิมพิสารไม่กล้าออกความตามจริง จึงให้การอ้อมแอ้ม