หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๑) - ๒๔๖๔.pdf/39

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๗

ถามข้าพเจ้าว่า ขุนนางในเมืองกรุงฯ ที่เปนผู้ใหญ่กั้นร่มอย่างไร กินเครื่องยศอย่างไร ข้าพเจ้าบอกว่า ขุนนางผู้ใหญ่กั้นร่มแพรแดง กินกล่องเงินเครื่องทอง แม่ทัพจึงทำร่มแพรแดงคัน ๑ เสื้อแพรแดงตัว ๑ ให้แก่ข้าพเจ้า ครั้นอยู่มา ๓ วั นห้อม้าซ่วย ๑ กับไพร่เงี้ยว ๗ คนเอาหนังสือแผ่นทองมาส่งให้ข้าพเจ้ากับมาตสามว่า ถ้าพม่าถามจึงเอาออกให้ดูว่าเปนหนังสือเมืองเชียงใหม่ให้ไปเมืองอังวะ ครั้นมาพบกองทัพพม่า ๓ ทัพ คนประมาณ ๔๐๐๐ (เจ้า) ฟ้าสีป่อทัพ ๑ คนประมาณ ๖๐๐ คน พม่าถามข้าพเจ้ากับมาตสามว่า เปนผู้ถือราชสาสนนั้น ราชสาสนอยู่ไหนเล่า ข้าพเจ้ากับมาตสามยกเอากล่องใส่แผ่นทองออกไปให้พม่าดู พม่าว่า นายทัพนายกองยังไม่พร้อมกัน ให้เอากลับคืนไปไว้เสียก่อน อยู่สักครู่หนึ่ง พม่ามาเรียกเอากล่องใส่แผ่นทองไปอิก ข้าพเจ้ากับมาตสาให้จเรแก้วเอาไปให้พม่าดูแล้วกลับเอามาไว้

ครั้นรุ่งขึ้นเพลาเช้าปะทวยตอเงี้ยวคุมคน ๗๐๐ คน อุยินมูพม่าคุมคน ๕๐๐ คนยกมารับข้าพเจ้ากับลาวมีชื่อไปถึงเมืองออก หยุดอยู่ ๓ วัน มองปะแลกองทัพพม่าซึ่งตั้งณเมืองหน่ายใช้พม่ามาว่าให้ข้าพเจ้าไปทางเมืองหน่าย ข้าพเจ้ากับมาตสามลาวมีชื่อไม่ไป อยู่มาอิก ๒ วัน ปะทวยตออุยินมูให้ตอจาโปจักกายมองยาคุมข้าพเจ้ากับลาวมีชื่อไปถึงเมืองแสนหวี ฟ้าแสนหวีจึงว่า จะคิดอ่านไปเปนไมตรี ถึงจะเสียเงินสัก ๒๐ ชั่ง ทองสัก ๑๐ ชั่ง ก็ตามเถิด ของเมืองไทยอย่าง