หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๑) - ๒๔๖๔.pdf/46

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๔

ประหารจึงดังประดุจเภรีนั้นไม่ อันกรุงศรีอยุธยากับกรุงอังวะก็เปนปรปักษ์ปัจจามิตรข้าศึกได้กระทำการยุทธสงครามกันมาช้านาน แต่ครั้งศักราชได้ ๑๑๔๖ ปีมโรงนักษัตร ฉศก พม่ากับไทยก็ได้ปฏิสัณฐารสนทนาในการนครกถาว่าจะดำเนินทางพระราชไมตรีเปนมิตรสันถวะปฏิการ จนให้สิ่งของตอบแทนแก่กันไปมา ครั้นศักราช ๑๑๔๗ ปีมเสง นักษัตร สัปตศก พม่ามิได้ตั้งอยู่ในสัจธรรมวาที ยกกองทัพมากระทำแก่กรุงศรีอยุธยา ก็ปราไชยไปเอง แต่พม่าให้เข้ามาเจรจาความเมืองจะเปนไมตรีถึง ๓ ครั้ง ๔ ครั้งแล้ว ก็กลับมากระทำการสงครามอิกเล่า

ครั้งนี้ซึ่งแต่งให้พระยาอินทจักร อากาปันยี พม่ามอญมีชื่อ เข้ามาเจรจาความเมืองว่าจะให้สองพระนครเปนสุวรรณปัถพีแผ่นเดียวกันโดยมหามิตรราชไมตรีทางเงินทางทองนั้น เห็นหาสุจริตไม่ หากไม่สมคิดจึงเคลือบแฝงแสร้งส่งเข้ามาเปนกลอุบาย หมายจะให้ช่วยโกรธฤๅ อย่าพึงสงไสยเลยว่ากรุงศรีอยุธยาจะรู้มิทัน แลซึ่งเสนาบดีกรุงรัตนบุระอังวะให้พระยาอินทจักร อากาปันยี พาตัวพระยาพิมพิสารแลหนังสือแผ่นทองสิ่งของทั้งปวงให้เข้ามาถึงเรานั้น ก็ขอบใจแล้ว แต่ตัวพระยาพิมพิสารนายไพร่ ๑๔ คนเปนข้าขอบขัณฑเสมา ได้ให้ส่งคืนขึ้นไปเมืองเชียงใหม่ แลหนังสือแผ่นทองสิ่งของทั้งนี้เปนของมีเจ้าของอยู่ จะรับไว้มิได้ ได้ให้พระยาอินทจักร อากาปันยี พม่ามอญมีชื่อ