หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๑) - ๒๔๖๔.pdf/57

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๔๕

ได้ทำราชยุทธการสงครามขับเคี่ยวกับกรุงพระมหานครศรีอยุธยามาถึงสองแผ่นดินแล้ว ก็ไม่แพ้ชนะกัน ทะแกล้วทหารไพร่พลช้างม้าล้มตายทั้งสองฝ่ายเหลือที่จะนับจะประมาณ จนพระชนมายุล่วงมาถึงเพียงนี้ มีความสังเวชพระหฤไทยนัก เหนื่อยหน่ายในการยุทธสงคราม บัดนี้ตั้งพระไทยฝักฝ่ายในการกองกุศล หาความพยาบาทมิได้ จะใคร่ให้สองพระนครเปนมหามิตรอันเดียวกัน ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินจะได้อยู่เย็นเปนศุขไปชั่วบุตรแลหลาน จึงมีรับสั่งให้มีหนังสือมาถึงเสนาบดีกรุงพระมหานครศรีอยุธยา จงตรึกตรองดูให้เปนผลประโยชน์ เมื่อเห็นชอบด้วย ก็ให้นำขึ้นกราบบังคมทูลสมเด็จพระเจ้าช้างเผือกกรุงศรีอยุธยาให้ทราบ แล้วขอตอบไปให้แจ้งด้วย สิ้นความในหนังสือแต่เท่านี้

จึงโปรดฯ ให้ทำเปนหนังสือเสนาบดีให้ข้าหลวงถือไปบอกให้สุริยนันทสุระแลพราหมณ์สังฆรันนำความไปแจ้งแก่เสนาบดีพม่า[1] ว่า เสนาบดีกรุงอังวะได้มีหนังสือมาว่าดังนี้ก็หลายครั้ง การก็ไม่จริงเหมือนถ้อยคำ ครั้งนี้ว่าพระเจ้าอังวะสั่งให้มา ก็ไม่มีสลักสำคัญอันใด เปนแต่หนังสือเสนาดีมีมาเจรจาความเมือง ก็มิใช่ราชสาสน ไม่ต้องด้วยอย่างธรรมเนียมราชประเพณีพระบรมธรรมิกมหาราชาธิราชแต่ปางก่อน เมื่อพระเจ้าอังวะมีพระไทยสังเวชเกรงบาปกรรมจะติดตามไปภายน่า จะเปนทองแผ่นเดียวกับกรุงพระมหานครศรีอยุธยาจริง ก็ให้มีพระราช


  1. เรื่องเจรจากันคราวที่ ๖ นี้ ปรากฎสำเนาหนังสือบริบูรณ์แต่หนังสือพระยากาญจนบุรีถึงเจ้าเมืองเมาะตะหมะฉบับเดียว นอกนั้นกล่าวไว้แต่เนื้อความทั้งนั้น.