หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๑) - ๒๔๖๔.pdf/61

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๔๙

อุโบสถ แลให้ปรนนิบัติตามอนุบบุพปติปทา มีศีลขันธ์ แลพระสมาธิขันธ์ แลปัญญาขันธ์ มีพระอรหัตที่สุดฉนี้ อย่าวิตกเลยที่ฝ่ายกรุงศรีอยุธยาจะมิตั้งอยู่ในสัตย์สุจริต ที่จะมิสู้เสียชีวิตรเอาความชอบช่วยทำนุบำรุงพระมหากระษัตริย์เจ้าทั้งสองให้ตั้งอยู่ในคลองพระราชประเพณีอันชอบนั้น ปรารภแต่ฝ่ายข้างโน้นให้มั่นอยู่ในสัตย์สุจริตเถิด

แลข้อว่ากรุงทวารดีนี้เปนกรุงอยุธยาสืบมามาแต่โบราณ เปนราชธานีใหญ่สำหรับผู้มีบุญ แลกรุงมหานครอมรบุรีมีนามตามพงศาวดาร แลบรรดากรุงใหญ่มีขอบขัณฑเสมา แลกรุงสุนาปรันตะ กรุงตามพะทีปะ[1] กรุงกัมพูชา เปนที่ตั้งพระบวรพุทธสาสนาเปนสัมมาทฤษฐิ นับถือพระรัตนไตรยาทิคุณด้วยกัน แม้ว่ากรุงใหญ่ใด ๆ จะคิดประทุษร้ายกัน ถึงจะได้รี้พลทะแกล้วทหารช้างม้าโคกระบือร้อยพันหมื่นก็ดี ที่จะได้สำเร็จราชการเปนสิทธิ์ขาดทีเดียวนั้นหามิได้ มีแต่จะเปนเวรานุเวรสืบกันไปเปนโทษในอนาคต แลชมพูทวีปนี้กว้างถึงหมื่นโยชน์ อันกรุงสองกรุงไม่ควรที่จะเปนปรปักษ์กัน พอที่จะสำเร็จความเมืองได้ เพราะเหตุมีจิตรฉลาดชิงเชิงกันอยู่จึงมิได้สำเร็จการ แลความทั้งนี้นักปราชญ์บัณฑิตจะได้จดหมายเปนพระราชพงศาวดารไว้สืบไป แลให้เราผู้ครองเมืองกาญจนบุรีจงยำเกรงนั้น ประการนี้สมควรนัก ด้วยภูมิสถานทั้งสาม คือ ชมพูทวีป ๑ แลดาวดึงษ์สวรรค์เทวโลก ๑ อเวจี


  1. สูนาปรัตนตะ หมายความว่า ประเทศพม่า ตามพะทีป หมายความว่า ลังกาทวีป