หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๑) - ๒๔๖๔.pdf/67

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๕๕


ตั้งแต่เจรจาความเมืองกันครั้งที่ ๖ เมื่อรัชกาลที่ ๒ แล้ว พม่ากับไทยก็มิได้เจรจาความเมืองกันอิกช้านาน เปนเวลาว่างการเจรจาถึง ๔๓ ปี เรื่องพงศาวดารในระยะนี้มีเหตุการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงด้วยกันทั้งสองฝ่าย ฝ่ายพม่านั้น พระเจ้าปดุงสิ้นพระชนม์เมื่อปีเถาะ พ.ศ. ๒๓๖๒ จักกายแมงราชนัดดาได้รับรัชทายาทครองแผ่นดินพม่าต่อมา เวลาเมื่อเปลี่ยนรัชกาลครั้งนั้น เมืองพม่าผู้คนพลเมืองกระด้างกระเดื่องไม่เปนปรกติ พระเจ้าจักกายแมงวิตกเกรงจะเกิดขบถขึ้นในแผ่นดิน พอได้ข่าวไปว่า ในเมืองไทยเกิดไข้อหิวาตกะโรคเมื่อปีมะโรง พ.ศ. ๒๓๖๓ ผู้คนล้มตายระส่ำระสายมาก พระเจ้าจักกายแมงเห็นได้ที จึงให้เตรียมกองทัพจะยกมาตีเมืองไทย หวังจะให้พวกพลเมืองพม่านับถือว่าเข้มแขงในการทัพศึกเหมือนพระเจ้าปดุงผู้เปนพระอัยกา แต่ฝ่ายไทยรู้ตัวทัน ทันเรียมกองทัพดักไว้ทุกทาง พม่าก็ไม่อาจยกมาเข้ามา พอพวกเมืองมณีบุระกำเริบขึ้นข้างเหนือ พระเจ้าจักกายแมงก็ต้องถอนกองทัพไปทำสงครามกับเมืองมณีบุระ แล้วเลยก้าวก่ายเข้าไปทางแดนอินเดีย พม่าจึงไปเกิดรบกับอังกฤษขึ้นเปนครั้งแรกเมื่อปีมะแม พ.ศ. ๒๓๖๖ แลครั้งนั้นอังกฤษมาชวนไทยให้ไปช่วยรบพม่าด้วย แต่ฝ่ายไทยยังมิทันที่จะได้ตกลงประการใด พอพระบาทสมเด็จฯ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย เสด็จสวรรคตเมื่อปีวอก พ.ศ. ๒๓๖๘๗ พระบาทสมเด็จฯ พระนั่งเกล้าเจ้า