หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๔) - ๒๔๖๕.pdf/23

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

ในท้องที่ ๓ ภาคนั้นก็ได้ชื่อต่างกัน พวกชาวสิบสองปันนาได้ชื่อว่าลื้อ พวกชาวสิบสองจุไทยได้ชื่อว่าผู้ไทย พวกชาวเมืองพวนได้ชื่อว่าลาวพวน แต่พูดภาษาไทยแลถือตัวว่าเปนไทยด้วยกันทั้ง ๓ พวก ในสมัยเมื่อพวกไทยที่ลงมาตั้งประเทศลานช้างมีอำนาจมาก ได้ บ้านเมืองพวกไทยทั้ง ๓ภาคที่กล่าวมาไว้ในอำนาจกรุงศรีสัตนาคนหุตทั้งหมด ครั้นพม่ามีอำนาจขึ้น พม่าชิงเอาแดนสิบสองปันนาไปเปนของพม่า ต่อมาเมื่อพวกเม่งจูได้ครองเมืองจีน ๆ ขยายอำนาจเข้ามาปกคลุมเอาทั้งแดนสิบสองปันนาและสิบสองจุไทยไปขึ้นต่อจีนด้วย มาถึงสมัยเมื่อญวนมีอำนาจขึ้น ญวนก็เข้ามาปกคลุมเอาเมืองในแดนพวนไปเปนเมืองขึ้น เพราะเมืองในแดนทั้งสองนั้นเปนแต่เมืองน้อย ๆ อยู่ชายแดนห่างไกลเมืองหลวงพระบาง อันเปนราชธานีกรุงศรีสัตนาคนหุตในสมัยนั้นอำนาจประเทศไหนมาถึงตัวพวกท้าวขุนที่ครองเมืองเห็นว่าจะสู้ไม่ไหวก็ "ทู้" คือยอมอยู่ในอำนาจ พอให้พ้นไภย ทางกรุงศรีสัตนาคนหุตอัน เคยขึ้นมาแต่เดิมก็คงยอมขึ้นอยู่อย่างแต่ก่อน เมืองในแดนสิบสองจุไทย แลเมืองพวนจึงมักเปนเมืองขึ้นหลายเจ้า เรียกกันว่าเมืองสองฝ่ายฟ้า เว้นแต่เหล่าเมืองที่อยู่ชิดเมืองหลวงพระบาง เจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุต ตั้งท้าวพระยาออกไปเปนตำแหน่งหัวพันปกครอง เดิมมี ๕ เมืองแล้ว เพิ่มขึ้นอิกเมือง ๑ เรียกว่าเมืองหัวพันห้าทั้งหก กรุงศรีสัตนาคนหุต ปกครองไว้ได้แต่ฝ่ายเดียว ต่อมากรุงศรีสัตนาคนหุตเกิดแยกกันเปน