หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๔) - ๒๔๖๕.pdf/43

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๒

แลจ่ายเสบียงสำหรับที่จะเดินทางต่อไปด้วย ตำบลนี้มีบ้านเรือนประมาณ ๓๐๐ หลังเรือนเศษ เปนที่ไร่นาบริบูรณ์พอหาเสบียงอาหารได้ รุ่งขึ้น ณวันเสาร์ เดือน ๓ ขึ้น ๑๐ ค่ำ ยกจากเมืองน้ำฮุงไปทางเปนที่ราบ เวลาบ่าย ๓ โมงเศษถึงท่าเดื่อริมแม่น้ำโขง ตั้งพักอยู่คืนหนึ่ง ครั้นรุ่งขึ้นณวันอาทิตย์ เดือน ๓ ขึ้น ๑๑ ค่ำ ยกจากท่าเดื่อเดินเลียบ ไปตามริมฝั่งแม่น้ำโขง ครั้นเวลาบ่าย ๓ โมงเศษถึงเมืองน่าน (น้อย) หยุดพักกองทัพที่เมืองน่าน (น้อย) นั้น ๒ คืน ด้วยตามประเพณีของเมืองหลวงพระบางมีมาแต่โบราณ ถ้าเจ้านายเมืองหลวงพระบางจะ ลงไปกรุงเทพฯ ฤๅข้าหลวงขึ้นมาแลจะเข้าไปในเมืองหลวงพระบาง แล้วต้องพักที่เมืองน่าน (น้อย) บวงสรวงเทพารักษก่อนจึงยกเลยไป เมื่อกองทัพถึงเมืองน่าน (น้อย) คราวนี้ เจ้านครหลวงพระบาง๑ แต่งให้ท้าวพระยานำเครื่องสังเวยเทพารักษ มีกระบือคู่ ๑ กับเครื่องกระยาบวงสรวงตามธรรมเนียม มาแจ้งความแก่แม่ทัพว่าเจ้านครหลวงพระบางให้จัดมาทำการบวงสรวงเทพารักษสำหรับกองทัพที่ยกมาตามแบบอย่างประเพณีของเมืองหลวงพระบาง เพื่อจะให้คุ้มครองป้องกันสรรพอันตรายทั่วทั้งกองทัพ แม่ทัพจึงได้ตั้งพักกองทัพอยู่ณที่นั้นสังเวยเทพารักษ์ตามธรรมเนียมของบ้านเมือง ตั้งแต่เมืองน่าน (น้อย) ต่อไป กองทัพเดินเลียบไปตามริมฝั่ง แม่น้ำโขงบ้าง เดินตัดไปทางป่าห่างฝั่งแม่น้ำโขงบ้าง ๒ วันถึงท่าเลื่อน

๑ เจ้ามหินทรเทพนิภาธร ต่อมาได้เลื่อนขึ้นเปนพระเจ้ามหินทรเทพนิภาธร