หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๔) - ๒๔๖๕.pdf/55

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๓๔

ทหารถอยมาจากเมืองจาดแล้วไว้ดีร้ายพวกฮ่อคงจะกลับมาตั้งอยู่อิก จึง คิดกลอุบายแกล้งทิ้งค่ายฮ่อไว้ไม่รื้อเสีย เอากระสุนปืนใหญ่ที่บรรจุ ดินดำเปนลูกแตกมีแก๊บชนวนอยู่ในกระสุน ฝังไว้ริมทางเข้าออก ผูก สายยนต์ดักไว้ ให้คนเดินต้องกระทบสายยนต์นั้น แลเอากระสุนแตกห้อยแขวนไว้บ้างก็มี แล้วแต่งคนให้คอยด้อมมองอยู่ยังเมืองแวน เมื่อกองทหารถอยมาได้สัก ๗ วัน ผู้ซึ่งคอยสืบกลับมาบอกรายงานที่แวน ว่า เมื่อกองทัพถอยมาแล้วมีฮ่อกับพวกผู้ไทยทู้ประมาณ ๕๐ คนพากันกลับมาแลเข้าไปในค่ายเมืองจาดนั้น ฮ่อแลผู้ไทยถูกจันห้าวที่ดักไว้กระสุนปืนใหญ่ลั่นรเบิดออกถูกฮ่อตาย ๓ คน ผู้ไทย ๒ คน ที่ป่วยไปหลายคน ฮ่อมิอาจอยู่ในค่ายนั้นก็พากันกลับไปยังเมืองพูนทั้งสิ้น แล้ว เก็บได้กระสุนปืนซึ่งแขวนไว้ที่ตอไม้กระสุนหนึ่งเอาไปดวย ครั้นรุ่งขึ้น ท้าวทิพกรมการเมืองแวนรวมนายไพร่ ๓ คน ซึ่งขึ้นไปสืบราชการยัง เมืองโสยเมืองพูนกลับมาแจ้งข้อราชการยังค่ายเมืองแวนว่า ฮ่อได้ กระสุนปืนไปจากค่ายเมืองจาดกระสุนหนึ่ง เอาเข้าไปยังค่ายเมืองพูนมันเรียกว่าลูกหมากโม้ ฮ่อเอาขวานทุบต่อยกระสุนนั้นก็ระเบิดออกถูก ฮ่อตาย ๒ คน ป่วยเจ็บไปหลายคน บัดนี้มีความครั่นคร้ามกองทัพแลกระสุนปืนนั้นเปนอันมาก เพราะไม่ทราบว่าจะฝังไว้ที่ใด ต่างแยกย้ายพากันอพยบไปเปนพวกเปนหมู่ละ ๓๐ คน ๔๐ คนหาได้รวบรวมกันไม่ สืบได้ความว่าจะพากันไปอยู่ตำบลท่าขวา แขวงสิบสองจุไทยริมฝั่งน้ำแท้ ยังมีฮ่อคงอยู่ที่ค่ายเมืองพูนอิกประมาณ ๓๐ คน ที่เมืองโสยมีพวกผู้ไทย