หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๔) - ๒๔๖๕.pdf/68

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๔๗

ปืนเอนฟิลด์ ๘๐ กระบอก กับปัสตันแลเครื่องยุทธภัณฑ์อย่างอื่นอิกหลาย อย่าง ส่วนพวกรี้พลเมื่อเห็นตัวนายถูกจับแล้วก็พากันแตกหนีไปมิได้ ต่อสู้ แต่พวกท้าวขุนแลราษฎรชาวเมืองแถงนั้นสงบเปนปรกติอยู่ พา กันมาร้องทุกข์ต่อแม่ทัพว่า เดิมเมืองแถงก็มิได้ขึ้นแก่เมืองไล เจ้า เมืองไลถือว่ามีกำลังมากกว่าเอิบเอื้อมเข้ามาบังคับบัญชา กดขี่เอา พวกชาวเมืองแถงไปใช้สอย แล้วเที่ยวกะเกณฑ์ลงเอาเงินทองของ ต่าง ๆ ได้ความเดือดร้อนกันทั่วไป จนราษฎรพลเมืองไม่เปนอันทำมาหากิน ที่ต้องหลบหนีไปอยู่ในป่าดงแลไปอยู่เสียต่างเมืองก็มาก ขอให้ กองทัพช่วยคุ้มครองป้องกันอย่าให้ได้รับความเดือดร้อนต่อไป แม่ทัพ ปฤกษากับเจ้าราชวงศเห็นว่า เมืองแถงเปนเมืองหนึ่งต่างหากมาแต่ เดิม พระสวาฯ ที่เปนตัวเจ้าเมืองก็ยังอยู่ เจ้าเมืองไลมาบุกรุกเอาไป เปนแดนของตน ครั้นกองทัพยกขึ้นไปก็ไม่มาอ่อนน้อมโดยดี กลับ ให้เข้ามาตั้งค่ายคูอวดอำนาจ แลที่สุดพวกพลเมืองก็มิได้สมัคจะอยู่ ในบังคับบัญชาของเจ้าเมืองไล ครั้นจะยอมให้เจ้าเมืองไลมีอำนาจเหนือเมืองแถงนั้นไม่ได้ ครั้นจะยกกองทัพขึ้นไปว่ากล่าวถึงเมืองไล ๆ ก็ตั้ง อยู่เหนือลำน้ำแท้นอกพระราชอาณาเขตร (เพราะเมืองหลวงพระบาง ถือว่าแนวลำน้ำแท้นั้นเปนเขตรของเมืองหลวงพระบาง) เมื่อกองทัพ กลับมาแล้วบางทีเจ้าเมืองไลจะเอิบเอื้อมเข้ามาอิก จะต้องเอาบุตรเจ้าเมืองไลทั้ง ๓ คนไว้เปนตัวจำนำก่อน เมื่อเจ้าเมืองไลมาว่ากล่าวยอม ตกลงโดยดี จึงค่อยปล่อยตัวบุตรให้ไป แม่ทัพจึงจัดวางการปกครอง