เมืองแถง ตั้งให้พระสวาฯ เปนเจ้าเมืองตามเดิม แล้วให้แต่งค่ายเก่า ที่ตำบลบ้านเชียงแลอันเปนเมืองเดิมเปนที่มั่น แลสั่งให้เมืองหลวงพระ บางเกณฑ์คนผลัดเปลี่ยนกันไปเปนกำลังรักษาค่ายนั้น กว่าบ้านเมือง จะเปนปรกติเรียบร้อยจึงให้ถอนกลับมา เมื่อกองทัพตั้งอยู่ที่เมืองแถงนั้น มีฮ่ออิกพวก ๑หัวน่าเปนจีนชาว เมืองกังไส ชื่อเล่าเต็กเซง เดิมมีพรรคพวกประมาณ ๖๐๐ คน เที่ยว รับจ้างรบพุ่งอยู่ในแขวงสิบสองจุไทย ภายหลังมากำลังน้อยลง ฮ่อพวก นี้จึงไปตั้งอยู่ที่เมืองม่วยบ้าง เมืองลาบ้าง ระยะทางห่างจากเมืองแถงเดินประมาณ ๑๒ วัน ฮ่อพวกนั้นเกรงกองทัพจะยกไปปราบปราม เล่าเต็กเซงตัวนายจึงพาพรรคพวกมาหาแม่ทัพที่เมืองแถง เมื่อเดือน ๓ ขึ้นค่ำ ๑ ขอสามิภักดิ์ยอมเปนข้าขอบขัณฑสิมาต่อกรุงเทพฯ แม่ทัพ ก็ให้กระทำสัตยสาบาล แล้วยอมรับสามิภักดิเหมือนกับฮ่อพวกอื่น กองทัพตั้งจัดการด่านทางแลวางการปกครองหัวเมืองอยู่ที่เมืองแถง จนเดือน ๓ ปีจอ ได้รับท้องตราพระราชสีห์ให้หากองทัพกลับกรุงเทพฯ เจ้าหมื่นไวยวรนารถจึงสั่งให้ทำลายค่ายฮ่อที่บ้านใดแลที่อื่น ๆ ซึ่งตีไว้ได้แล้วให้นายพันตรี จ่ายวดกับเจ้าราชวงศล่วงน่าลงมายังเมืองหลวงพระบาง บอกเจ้านครหลวงพระบางให้จัดท้าวพระยาที่มีสติปัญญาออกไปประจำรักษาการตามเมืองหัวพันห้าทั้งหก แล้วเจ้าหมื่นไวยวรนารถยก กองทัพออกจากเมืองแถง เมื่อเดือน ๔ ขึ้นค่ำ ๑ ปีจอ พาหัวน่าพวก ท้าวขุนเมืองหัวพันห้าทั้งหก และหัวน่าพวกฮ่อที่สามิภักดิ์กลับลงมาเมือง หลวงพระบาง มาพักฉลองพระเจดีย์ที่กองทัพได้สร้างไว้ที่เมืองงอย
หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๔) - ๒๔๖๕.pdf/69
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๔๘