หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒) - ๒๔๕๗ b.pdf/89

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๗๙

เมืองไทรบุรีประจบกัน มีสพานข้ามคลองทั้งสองฝ่าย ให้ไพร่บ้านพลเมืองลูกค้าวานิชเดินไปมาสดวก

ครั้นณวันเสาร์ ขึ้นห้าค่ำ เดือนยี่ ปีมแม ตรีศก ศักราช ๑๒๓๓ ในรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทางชลมารคด้วยเรือกลไฟชื่อ บางกอก เปนเรือพระที่นั่ง เรือรบชื่อ สยามูประสดัมภ์ เรือรบชื่อ พิทยัมรณยุทธ เปนเรือตามเสด็จในกระบวน ไปประพาศเมืองสิงคโปร์ เมืองเกาะหมาก เมืองรางงูน เมืองกาลักตา แลเมืองอื่น ๆ ในประเทศอินเดีย ครั้นเมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับมา ได้เสด็จประพาศเมืองพังงา เมืองภูเก็จ แล้วเรือพระที่นั่งมาทอดปากน้ำเมืองไทรบุรี พระยาไทรบุรีรับเสด็จประพาศเมืองไทรบุรี แลพระยาไทรบุรีกับพี่น้องจัดที่ถวายเปนที่ประทับ แล้วเลี้ยงดูข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยทั่วกัน ทรงประทับแรมราตรีหนึ่ง แล้วเสด็จทางสถลมารคซึ่งทำใหม่ ด้วยกระบวนรถ ม้า ช้าง ซึ่งกรมพระกลาโหมเกณฑ์เมืองสงขลา เมืองไทรบุรี เมืองปลิศ เมืองสตูน รับส่งเสด็จนั้น มาประทับร้อนแรมณพลับพลาค่ายหลวงตามระยะทาง เสด็จมาลงเรือพระที่นั่งกลไฟชื่อ ไรซิงซัน ณเมืองสงขลา มารดาพระยาไทรบุรี แลพระยาไทรบุรี พี่น้อง ศรีตวันกรมการ ตามส่งเสด็จจนถึงเมืองสงขลา เสด็จพระราชดำเนินกลับเข้ามากรุงเทพฯ ณวันเสาร์ ขึ้นเจ็ดค่ำ เดือนห้า ปีวอก ยังเปนตรีศก

ณปีวอก จัตวาศก ศักราช ๑๒๓๔ โปรดเกล้าฯ มีท้องตราให้พระยาไทรบุรี เข้ามาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทณกรุงเทพฯ ครั้งนั้น