หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๕๓) - ๒๔๗๖.pdf/129

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๒๕

เที่ยวทอดพระเนตรกุฎีแลกติ เสด็จมาถึงที่ลอองพระบาท แลพระเจ้าลูกเธอ เจ้าพระยาอภัยภูธร เจ้าพระยาพระคลัง พระยาศรีพิพัฒน์ คอยเฝ้าอยู่ พระโองการเสด็จมาถึง ตรัสว่า จะนั่งด้วย พระโองการก็เสด็จอยู่บนพระที่นั่งเก้าอี้ ตรัสคิดแต่ที่จะทำกุฎี ทำกติ ทำหอไตร ทำโรงฉัน ตรัสไปแต่ด้วยการวัดทั้งนั้น ด้วยหนังสือซึ่งพระยาสุรเสนา พระยาพิไชยสงคราม บอกเข้าไปนั้น พระโองการหาตรัสที่วัดไม่ แล้วพระโองการเสด็จกลับ

ครั้นเพลาค่ำ พระโองการเสด็จออก รับสั่งถามด้วยราชการ แล้วอ่านรายการปากน้ำปากลัดถวาย แล้วจึงรับสั่งถามลอองพระบาทว่า เปนอย่างไหรยซึ่งพระยาสุรเสนาออกไปชำมระไทยแขกแต่สักคนหนึ่งก็ไม่ได้ ลอองพระบาทนิ่งเสียไม่กราบทูลสิ่งใด พระโองการตรัสเคืองแก่พระยาสงขลาว่า ข้าหลวงออกไปอยู่ แขกไทยก็ไม่ชำมระส่งให้ แล้วว่า ไปที่สตูนจะจัดแจงกรมการคนใดให้อยู่ชำระกับข้าหลวงก็หาไม่ ๆ กลัวไม่เกรง[1] เมื่อเจ้าของบ้านไม่เปนใจด้วย จะได้ที่ไหน จะให้ข้าหลวงไปเที่ยวหาเอา แล้วจะกลับว่า ข้าหลวงไปทำให้คนแตกตื่นหนีไปเสียอย่างนี้ ถ้ามีราชการทัพศึก จะหมีเสียราชการไปฤๅ ที่จะให้เปนเจ้าบ้านเจ้าเมืองไปนั้น ที่ไหนจะให้เปนไป ได้ เอาตัวเข้ามาไว้ณกรุงเสีย ใครเห็นกไหรเล่า แต่พระโองการตรัสเคืองแก่พระยาสงขลาปนอยู่เปนมาก เจ้านายแลขุนนางมิได้


  1. ตรงนี้ทำให้เข้าใจว่า เมืองสตูนขึ้นเมืองสงขลาในเวลานั้น บางทีจะมาขึ้นอยู่ชั่วคราวแต่ไม่นาน.