หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๕๓) - ๒๔๗๖.pdf/96

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๒

แลเจ้าคุณผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา เฝ้าอยู่ด้วย แล้วตรัสกับเจ้าคุณผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา แลพระวิชิตสรไกร พระเสนหามนตรี ว่า ข้าจะลาก่อน ค่อยอยู่ให้เปนศุข ๆ เถิด แล้วเสด็จมาประทับลงตรงหน้าเจ้าคุณผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา แล้วจับมือเจ้าคุณผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา ทรงพระราชทานพรว่า ให้เจ้าคุณผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลาอยู่เปนศุข ๆ เถิด แล้วตรัสเรียกพระเจ้าหน่อ ๖ พระองค์ว่า ให้เข้ามาจับลาท่านสงขลาเสีย พระเจ้าหน่อ ๖ องค์เข้ามาจับมือเจ้าคุณผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา ๆ (ถวายพระพร) ว่า ให้ทรงพระไวยจำเริญ ๆ ทุก ๆ พระองค์เถิด แล้วเสด็จลงเรือพระที่นั่งมณีเมขลากำปั่นกลไฟ ประทับอยู่ถึงเจ็ดทุ่ม ติดไฟไขกุญแจเปิดจักรเรือพระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินจากเกาะหนู เรือพระที่นั่งสยามอรสุมพลกลไฟ แลเรือพระที่นั่งมงคลเทพ[1] ใช้ทั้งใบทั้งจักร เรือเจ้าต่างกรมแลเจ้าหากรมมิได้ แลเรือท้าวพระยาข้าทูลอองธุลีพระบาททั้งปวงซึ่งตามเสด็จออกมา ขี่กำปั่นไฟ กำปั่นใบ เรือศีศะญวน เรืออาสาจาม เรือแง่ซาย เรือฉลอง เรือช่วง เรือเก๋ง เรือญายับ รูปเรือต่าง ๆ ถ้าจะคณนานับ (เรือ) ได้พันเศษ ก็แวดล้อมเปนยศศักดิบริวารไปในท้องทเล ในเพลาราตรีวันนั้น พระจันทร์ลับเหลี่ยมพระสุเมรุราช ท้องทเลราบรื่น หาคลื่นบมิได้ สว่างด้วยแสงประทีปแก้วบนปลายเสาแลประทีปแก้วรายแคมตลอดรอบลำเรือพระที่นั่ง สีขาว สีเขียว สีเหลือง สีแดง สว่างส่องแสงในทางชลมารค แลเมื่อสมเด็จพระจอม


  1. มหาพิไชยเทพ